Activities – People’s Empowerment Foundation https://pefthailand.org We believes a world where democracy and human rights are achieved for all, and local communities are respected and included in policy-making processes. Wed, 26 Feb 2025 03:06:10 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.7.2 https://pefthailand.org/wp-content/uploads/2023/07/Logo-3-85x85.png Activities – People’s Empowerment Foundation https://pefthailand.org 32 32 บทความ แรงงานหญิงข้ามชาติ: “สภาวะไร้อำนาจ สถานไร้รัฐ และการถูกเอารัดเอาเปรียบภายใต้การโยกย้ายถิ่นฐานกับการทุจริจที่ไม่เป็นธรรมในไทย”  https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1-%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%8d%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%8a%e0%b8%b2/ https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1-%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%8d%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%8a%e0%b8%b2/#respond Wed, 26 Feb 2025 03:06:08 +0000 https://pefthailand.org/?p=9278 ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ในสังคมไทยมีแรงงานข้ามชาติมาจากพม่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ความเกี่ยวเนื่องกับการอพยพเดินทางเพียงต้องการหางานเลี้ยงชีพทีมีความสัมพันธ์กับสถานทางสังคมและอำนาจหลายอย่าง 

การต่อบัตรแรงงาน (บัตรชมพู) กระบวนสำคัญที่เป็นตัวกำหนดให้แรงงานเหล่านี้มีสถานะที่ “ถูกกฎหมาย” ลดระดับการตีตราว่าเป็นผู้เห็นแก่ตัวและกระทำการผิดกฎหมาย แต่การมีสถานะแรงงานถูกกฎหมายยังคงไม่สามารถทำให้รอดพ้นจากการเอาเปรียบและอำนาจในการทุจริต 

การนิยามการทุจริตของแรงงานข้ามชาติ ผ่านบทความที่ทำความเข้าใจกับสถานของแรงงานข้ามชาติ กับการนิยามการทุจริต ในมุมมองของกลุ่มที่มีจำนวนไม่น้อยในสังคม แต่พวกเราไม่ได้ทำความเข้าใจกับพวกเค้ามากนัก

https://drive.google.com/file/d/1s3oEtaTG9z0HkRsGbx85C8vF2LTblU-Z/view?usp=drive_link

Article Migrant Workers “Powerless, Stateless and Exploited under a Corrupted Migration System in Thailand”

It is undeniable that Thai society has a long history of migrant workers from Myanmar. While migration from Myanmar may appear to be solely driven by the need to support livelihoods, it is intricately connected to various social statuses and power dynamics.

Migrant Worker Cards (Pink Card) is a crucial process that grants their workers a “legal” status, reducing the stigma of being seen as selfish or involved in illegal practices and activities. However, having a legal status still can not truly protect them from exploitation and being extorted under a corruption system.  

The definition of corruption among migrant workers is explored through an article that seeks to understand the situation of migrant workers and how they define corruption, from the perspective of a group that exists as a significant portion of Thai society but has not been well understood by the general public. 

https://drive.google.com/file/d/1BIMhBpdbIxjyf4iElRph7TLi0s7nFBrV/view?usp=drive_link

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1-%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%8d%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%8a%e0%b8%b2/feed/ 0
PEF Financial Report 2023 https://pefthailand.org/pef-financial-report-2023/ https://pefthailand.org/pef-financial-report-2023/#respond Mon, 17 Feb 2025 01:53:19 +0000 https://pefthailand.org/?p=9271 People’s Empowerment Foundation 2023Download ]]> https://pefthailand.org/pef-financial-report-2023/feed/ 0 บทความ ผู้ให้บริการทางเพศ “การต่อสู้เพื่อทำให้งานบริการทางเพศไม่เป็นอาชญากรรม การทุจริตอย่างเป็นระบบกับงานบริการทางเพศ” [TH/EN] https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1-%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%80/ https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1-%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%80/#respond Tue, 11 Feb 2025 05:10:23 +0000 https://pefthailand.org/?p=9266 “ความสัมพันธ์ของการทุจริตกับการให้บริการทางเพศ” การทุจริตมีความเกี่ยวข้องกับกฎหมาย สิทธิ อำนาจรัฐและเกี่ยวข้องกับสถานภาพชีวิตของมนุษย์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 

“ส่วย” เป็นคำที่คนไทยหลายคนคุ้นเคย งานบริการทางเพศ​เป็นหนึ่งในงานที่หลายคนทราบดีว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับการทุจริตของเจ้าหน้ารัฐ หลายคนทราบดีว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่งผู้ให้บริการทางเพศเหล่านี้คอยจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่และผู้มีอิทธิพลเพื่อให้งานของพวกเธอยังดำรงอยู่ได้ การมีตัวตนของผู้ให้บริการทางเพศเกี่ยวข้องกับทุกคนอย่างไร? 

บทความที่สะท้อนมุมมองและความคิดของผู้ให้บริการทางเพศผ่านบทสัมภาษณ์ ให้ความสำคัญกับการนิยาม “คอร์รัปชั่น” ในมุมมองของผู้ให้บริการทางเพศ 

Article Sex Workers “Fight to Decriminalization Sex Worker in Thailand and Systemic Corruption” 

“The Relationship Between Corruption and Sex Work Services” Corruption is inherently connected to law, rights, state power, and the social status of individuals, and it cannot be avoided.

“Bribe” is a term that many Thai people are familiar with. Sex work is one of the occupations that many know is closely tied to corruption involving state officials. It is well-known that, in one way or another, sex workers are required to pay bribes to officers and influential individuals in order for their work to continue. How is the existence of sex workers connected to everyone?

This article reflects the perspectives and thoughts of sex workers through interviews, emphasizing the definition of “corruption” from how they view it. 

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1-%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%80/feed/ 0
การ์ตูนสิทธิมนุษยชนตอน “กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Laws)” https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%a9%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99/ https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%a9%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99/#respond Thu, 06 Feb 2025 06:24:43 +0000 https://pefthailand.org/?p=9248 สงสัยกันไหมว่าในภาวะสงครามนั้น มีการกำหนดกฎหมายหรือหลักการระหว่างประเทศที่ทุกประเทศต้องปฏิบัติตามหรือไม่? คำตอบคือ “ใช่”! แม้ในช่วงเวลาของสงคราม คู่กรณีทั้งสองฝ่ายยังคงต้องดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม เพื่อลดผลกระทบจากสงคราม และคุ้มครองพลเมืองและผู้บริสุทธิ์จากความรุนแรงที่เกิดขึ้น

แต่กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศนั้นมีลักษณะอย่างไร? เกิดขึ้นมาได้อย่างไร? มาร่วมเรียนรู้ไปกับการ์ตูนสิทธิมนุษยชนตอนใหม่ที่พูดถึงเรื่อง “มนุษยธรรมระหว่างประเทศ” เพื่อเพิ่มความเข้าใจในเรื่องนี้กัน!

หลักมนุษยธรรมเกิดขึ้นเมื่อ เฮนรี่ ดูว์น็อง ซึ่งเป็นนักธุรกิจและนักช่วยเหลือเพื่อนมุนษย์ชาวสวิส ได้เห็นการสูญเสียและการทรมานในสงคราม “The Battle of Solferino” เกิดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน 1859 จึงได้มีการเขียนหนังสือ “A Souvenir of Solferino” เพื่อเรียกร้องให้การมาตราการดูแลทหารที่บาดเจ็บในภาวะสงคราม 

แนวคิดของเฮนรี่ ดูว์น็องได้ถูกตอบรับจนกระทั่งได้มีการก่อตั้งคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ International Committee of the Red Cross (ICRC) ขึ้นมา และได้นำไปสู่การออกอนุสัญญาเจนีวาฉบับแรก (first Geneva Convention) ในปี 1864 ซึ่งมีหลักการสำคัญคือ 

  • การช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บโดยไม่เลือกสัญชาติ
  • แพทย์สนามต้องทำงานเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่และช่วยทุกคนที่บาดเจ็บในภาวะสงคราม
  • การกำหนดสัญลักษณ์กาชาดเป็นรูปคาดบวกสีแดงบนพื้นสีขาวใช้ในสภาวะสงคราม

ในกลุ่มประเทศอาเซียนมีเพียงประเทศไทยเท่านั้น (ตอนนั้นยังใช้ชื่อสยาม) ที่ลงนามในอนุสัญญานี้ในปี 1895 

แม้ว่าจะมีอนุสัญญาเจนีวาฉบับแรกในปี 1864 ก็ตาม การเกิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้องค์กร ICRC ได้เห็นถึงความล้มเหลวในการขับเคลื่อนประเด็นมนุษยธรรม ในปี 1945 จึงได้ผลักดันให้รัฐบาลทั่วโลกหลักการมนุษยธรรมให้เป็นกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ  

ซึ่งกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศนั้นคือการรวมกันของอนุสัญญาด้านมนุษยธรรม 4 ฉบับด้วยกัน

  1. อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 1 ข้อตกลงการดูแลทหารที่บาดเจ็บในสงคราม
  2. อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 2 ข้อตกลงการดูแลทหารที่บาดเจ็บในการสู้รบทางทะเล
  3. อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3 ข้อตกลงในปฏิบัติต่อนักโทษสงคราม
  4. อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 ข้อตกลงในการคุ้มครองประชาชนในภาวะสงคราม 

การลงนามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศคือต้องยอมรับอนุสัญญาด้านมนุษยธรรม ”ทั้งหมด” 4 ฉบับ

ใครควรได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ? 

กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศได้มีหลักการสำคัญที่ถูกระบุชัดเจนถึงผู้ที่ควรได้รับการคุ้มครองภายใต้สภาวะสงคราม รวมถึงพฤติการณ์ไม่ควรกระทำในภาวะสงคราม ได้แก่

  • ผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมสู้รบ เช่น พลเรือน
  • ผู้ที่ไม่สามารถทำงานสู้รบได้อีก เช่น ทหารที่บาดเจ็บ เชลยที่ถูกจับและทหารที่ยอมวางอาวุธ
  • ห้ามพุ่งเป้าโจมตีพลเรือน หากละเมิดจะเข้าข่ายละเมิดอาชญากรสงคราม
  • รับรองสิทธิพลเมืองที่ต้องได้รับการคุ้มครองจากภัยสงคราม หลี่กเลี่ยงการทำลายหรือการสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของพลเรือน
  • รับรองสิทธิในการรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ป่วย
  • ห้ามมุ่งโจมตีบุคลากรทางการแพทย์ที่ดำเนินงานด้านมนุษยธรรม
  • ห้ามกระทำการทรมาน ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แก่เชลยศึก
  • เชลยศึกหรือผู้ถูกคุมขังต้องได้รับอาหารและสามารถติดต่อญาติได้
  • จำกัดวิธีการ รูปแบบสงครามเพื่อหลี่กเลี่ยงผลเสียในวงกว้างที่ไม่อาจะควบคุมได้
  • ห้ามกระทำการข่มขืนหรืออนาจารในรูปแบบใดๆ โดยเด็ดขาด 

นอกจากกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศแล้ว ยังมีอนุสัญญาอื่นๆอีกมากที่เกี่ยวข้องกับสงคราม ที่เกิดขึ้นและพัฒนาตามยุคสมัย กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศทั้งสี่ฉบับนี้ถือเป็นหลักพื้นฐานของการเกิดขึ้นของหลักมนุษยธรรมทั่วโลก นำไปสู่อนุสัญญาใหม่ๆเพื่อมุ่งรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์ในสภาวะสงคราม

ความร่วมมือและการทำงานด้านมนุษยธรรมได้ถูกขยายไปยังการก่อตั้งองค์กรใหม่ๆ รวมถึงระดับประเทศในภูมิภาคในอาเซียนด้วย

ในปี 1991 ได้มีการจัดตั้งองค์กรสหประชาชาติเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรม หรือ The Coordinator of Humanitarian Affairs (OHCA) ผ่านข้อตกลงสมัชชาใหญ่ฉบับที่ 46/182 (General Assembly Resolution 46/182) เพื่อสนับสนุนงานช่วยเหลือประสานงานด้านมนุษยธรรมแก่เพื่อนมนุษย์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

OHCA ได้วางหลักการพื้นฐานทางมนุษยธรรมสี่ข้อหลักๆด้วยกัน คือ

  • หลักการทำงานบนพื้นฐานความเป็นมนุษย์
  • หลักการทำงานบนพื้นฐานการทำงานไม่เลือกฝ่าย
  • หลักการทำงานบนพื้นฐานความเสมอภาค
  • หลักการทำงานบนพื้นฐานของความเป็นอิสระ 

หากเรามามองการทำงานด้านมนุษยธรรมในภูมิภาคอาเซียน อาเซียนได้มีการก่อตั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลอาเซียนเพื่อทำงานด้านมนุษยธรรมในภูมิภาค หรือ The ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on Disaster Management (AHA Center) เมื่อปี 2011 

ในระดับรัฐบาลของอาเซียนก็ได้มีการจัดตั้งองค์กาชาดระดับประเทศขึ้นมา โดยใช้ชื่อสภากาชาด และสมาคมเสี้ยววงเดือนแดง 

นอกจากนี้ยังมีองค์กรที่ทำงานเพื่อไว้แสวงผลกำไรทั่วโลกอีกนับไม่ถ้วน ที่ทำงานคอยช่วยเหลือสนับสนุนงานภารกิจด้านมนุษยธรรม 

สถานการณ์ภาพรวมด้านมนุษยธรรมในอาเซียน พบว่ายังคงมีปัญหาอีกมาก ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลแก่ปัญหาด้านมนุษยธรรมมากที่สุดคือปัญหาการสู้รบทางอาวุธในพม่า โดยชนกลุ่มน้อยและประชาชนหลายคนไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมได้ ส่งผลให้เกิดการอพยพย้ายถิ่นและลี้ภัยสู่ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ โดยองค์กรอื่นๆจะสามารถเข้ามาทำงานช่วยเหลือได้เมื่อรัฐบาลแต่ละประเทศอนุญาตให้เข้ามาทำงานได้เท่านั้น

*ข้อมูลเมื่อปี 2022

โดยบทสรุปแล้ว 

หลักมนุษยธรรมคือหลักการที่มีไว้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในทุกสภาวะที่ยากลำบากในทันที โดยที่ต้องไม่เลือกปฏิบัติและเป็นอิสระไม่ถูกขัดขวางจากสถาบันทางสังคมอื่นๆ 

โดยหลักและกฎหมายมนุษยธรรมสากลมีการริเริ่มได้ปี 1864 จากแนวคิดการช่วยเหลือทหารในสงครามกลายเป็นกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law: IHL) ในปี 1949 โดยภายหลังได้ถูกขยายแนวคิดครอบคลุมถึงการช่วยเหลือผู้คนจากภัยพิบัติและทุกสภาวะที่ยากลำบากของมนุษย์ 

หลักการมนุษยธรรมสากลยังถือเป็นหลักจารีตประเพณีระหว่างประเทศ ที่ทุกประเทศจะต้องนำไปปฏิบัติแม้ว่าประเทศนั้นจะไม่ลงนามในอนุสัญญาก็ตาม

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%a9%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99/feed/ 0
Understanding Corruption in ASEAN: A Brief 101 – “What is Corruption?” https://pefthailand.org/understanding-corruption-in-asean-a-brief-101-what-is-corruption/ https://pefthailand.org/understanding-corruption-in-asean-a-brief-101-what-is-corruption/#respond Mon, 09 Dec 2024 13:44:33 +0000 https://pefthailand.org/?p=9236

December 9 of every year marks International Anti-Corruption Day, reminding all United Nations member countries of the importance of addressing and combating corruption worldwide.

The definition of “corruption” is interpreted and defined differently in various national, geographical, and social contexts. In Thailand, the term corruption is often mentioned in political contexts and is frequently used to attack and undermine the credibility of opposing parties.

But what else do we truly know about corruption?

Join us in exploring and understanding corruption at the international level and regional ASEAN level. What do we know and what do we not know about how corruption affects us directly and indirectly?

Corruption still lacks a universal definition. As a result, each government and international organization has designed its own definition of corruption. Most definitions tend to describe corruption as “the misuse of power for personal gain by those who should not get benefit.” The minor difference between those definitions is in line with the emphasis on the degree and level of perpetrators which public sectors referring to public officials within power of state. These definitions are similar with definition designed by the World Bank and OECD.

 One of the most commonly used definitions comes from Transparency International (TI), which defines corruption as “the abuse of entrusted power for private gain.”

In Thailand, the obvious definition can be found in the Organic Act on Anti-Corruption B.E. 2561 (2018), which defines corruption as misconduct of individuals, particularly focusing on those holding positions within government duties.

What these definitions fail to address is how corruption relates to social structures. Most emphasize individual actions of abusing power for personal benefit but not much touch on aspects of democracy, governance, or broader political, social, and administrative issues.

What About you? How do you define corruption?

In Thailand, corruption is often brought up in the context of political accusations. However, in reality, corruption has long-term negative impacts across multiple dimensions and directly and indirectly affects everyone in society. These impacts range from issues of human rights, the environment, poverty, impunity, violence and armed conflict, transnational crime, and hatred among human beings.

At first glance, these problems may seem unrelated to corruption. But upon closer consideration, many of the factors leading to these issues stem from neglect or unjust use of power in various contexts.

For example, scammers and call center organizations would not be able to exist if the states took serious action through laws and enforcement. Transnational crimes would not be able to operate cross-border as “gray-zone businesses” if governments cooperated to restrict such actions. In the justice system as well, if these processes were transparent and capable of bringing wrongdoers to justice in accordance with the law, crime rates would have decreased.

What about you? How do you think corruption harms yourself and society?

The United Nations Convention against Corruption (UNCAC)
The UNCAC is the only legally binding international treaty in the globe dedicated to combating corruption. Currently, 191 countries globally are parties to the convention (out of the 193 UN member states). The focus is on fostering international cooperation to address corruption at a global level.

It also features a monitoring mechanism for member countries called the “Conference of the States Parties to the United Nations Convention against Corruption (CoSP).” However, this mechanism involves only intergovernmental collaboration and lacks engagement with civil societies, businesses or other organizations.

The UNCAC
The UNCAC does not explicitly define “corruption,” but it identifies acts that are considered corruption in Chapter 3 of the convention.

Acts considered corruption as outlined in the convention include:

  1. Bribery of national public officials (Article 15)
  2. Bribery of foreign public officials and officials of public international organizations (Article 16)
  3. Embezzlement, misappropriation or other diversion of property by a public official (Article 17)
  4. Trading in influence (Article 18)
  5. Abuse of functions (Article 19)
  6. Illicit enrichment (Article 20)
  7. Bribery in the private sector (Article 21)
  8. Embezzlement of property in the private sector (Article 22)
  9. Laundering of proceeds of crime (Article 23)
  10. Concealment (Article 24)
  11. Obstruction of justice (Article 25)

Once a state party signs the convention, it is expected to enact laws to prevent and control such behavior. However, in practice, while many countries attempt to legislate against corruption, the forms of corruption often evolve, adapting to legal frameworks and becoming more complex and harder to detect.

What do you think should be done to stop these corrupt practices?

Corruption Assessment
In reality, assessing corruption is “difficult” because corrupt acts are often carried out covertly to avoid detection. Most innovative methods for evaluating corruption rely on “perceptions, awareness, understanding, and feelings” about the overall societal situation regarding corruption.

Transparency International (TI) is a well-known international organization assessing corruption, which evaluates global government corruption through surveys of opinion and expert in each country. This is known as the “Corruption Perceptions Index (CPI).” Most ASEAN countries score below the global average (except Singapore) and tend to struggle to make significant progress in addressing corruption.

In Thailand, the National Anti-Corruption Commission (NACC) has developed a domestic corruption perception measure called the “Integrity and Transparency Assessment (ITA),” which assesses the ethics and transparency of government agencies. A comparison between CPI and ITA scores shows differing results. CPI, evaluated by an international organization, suggests that Thailand’s corruption situation remains stagnant without improvement. However, ITA, assessed domestically, indicates that Thailand’s corruption situation has been improving steadily every year.

What do you think about corruption perception scores? Which assessment is more credible, CPI or ITA?

In regional anti-corruption efforts, ASEAN has established cooperation between state agencies called “The Southeast Asia Parties Against Corruption (ASEAN-PAC).” Each designated organization is required to collaborate in driving to combat corruption issues at the regional level. ASEAN-PAC has five objectives as:

  1. To exchange and share information and collaborate in combating corruption.
  2. To collaborate in training and professional skill development.
  3. To exchange expertise and personnel in fields related to anti-corruption efforts.
  4. To host and participate in conferences, forums, training sessions, and seminars.
  5. To provide technical assistance in operational activities.

ASEAN-PAC signed a Memorandum of Understanding (MoU) on December 15, 2004, marking the beginning of regional anti-corruption efforts within ASEAN. However, the work of ASEAN-PAC is often criticized for lacking transparency, as the public rarely knows about the plans or outcomes of ASEAN-PAC meetings.


Ultimately, no matter how much we understand corruption, it still affects all of us, whether directly or indirectly. It is evident that the role of the government is crucial in driving efforts to resolve corruption, but the role of everyone else is equally important in solving these problems together.

Finally, let’s share our thoughts on this:
How do we perceive corruption phenomena? How will you answer on these questions?

  • Does the government effectively manage corruption?
  • Are ASEAN governments transparent and uphold good governance?
  • Do you know what the ASEAN-PAC (Southeast Asia Parties Against Corruption) discusses?
  • Do you think your country can solve issues like casinos and online call center scams?
  • Do you believe the judicial system in your country is fair?
  • Do you think the current parliamentary system can address corruption?
  • Do government officials in your country engage in extortion or bribery?
  • Do you believe corruption can be resolved?
  • How do you think corruption impacts human rights issues?
  • Who do you think benefits the most from corruption?

]]>
https://pefthailand.org/understanding-corruption-in-asean-a-brief-101-what-is-corruption/feed/ 0
ทำความเข้าใจคอร์รัปชันในอาเซียน ฉบับรวบรัด 101 “คอร์รัปชันคืออะไร ?” https://pefthailand.org/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99/ https://pefthailand.org/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99/#respond Mon, 09 Dec 2024 06:08:05 +0000 https://pefthailand.org/?p=9226

ทำความเข้าใจอคอร์รัปชั่นในอาเซียนฉบับรวบรัด 101 “คอร์รัปชั่นคืออะไร?” 

เนื่องในวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีถือเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากลที่คอยเตือนให้ทุกประเทศในภาคีของสหประชาชาติ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปรากฎการณ์คอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นทั่วโลก 

เนื่องจากไม่มีคำนิยามสากลของคำว่า “คอร์รัปชั่น” ทำให้คำนี้ถูกตีความและให้ความหมายที่แตกต่างกันในแต่ละบริบทของประเทศ ภูมิศาสตร์ไปจนถึงสถานะทางสังคม ในประเทศไทยคำว่าคอร์รัปชั่นมักถูกพูดถึงในบริบททางการเมือง มักถูกอ้างไว้สำหรับโจมตีและทำลายความน่าเชื่อถือของขั้วตรงข้าม

แต่จริงๆแล้วพวกเรารู้อะไรอีกบ้างเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น? 

มาร่วมเรียนรู้ไปกับพวกเราเกี่ยวกับความเข้าใจคอร์รัปชั่น ทั้งในระดับสากลและภูมิภาคอาเซียนของพวกเรา มีอะไรที่พวกเรารู้และไม่รู้บ้าง ว่าการคอร์รัปชั่นส่งผลอย่างไรกับพวกเราทั้งทางตรงและทางอ้อม

คอร์รัปชั่น ยังไม่มีคำนิยามระดับสากลที่ใช้ร่วมกัน ทำให้แต่ละรัฐบาล องค์กรใหญ่ๆ จึงได้สร้างคำนิยามคอร์รัปชั่นขึ้นมาเอง โดยคำนิยามส่วนมากมีทิศทางที่เป็นไปในลักษณะของการ”ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ที่คนเหล่านั้นไม่สมควรได้” จะมีแตกต่างเพียงนิดหน่อยคือการให้ระดับความสำคัญของบุคคลที่เป็นผู้กระทำ ที่หมายถึง อำนาจสาธารณะ (หรือรัฐ) อย่างเช่นตัวอย่างคำนิยามของธนาคารโลก (World Bank) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา (OECD) 

หนึ่งในคำนิยามที่มักถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดคือคำนิยามโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: TI) คือ “การใช้อำนาจที่ได้รับไว้วางใจในทางที่ผิดเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว” 

ในส่วนของประเทศไทยนั้น คำนิยามที่ชัดเจนที่สุดอยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งให้ความหมายในลักษณะที่ว่าการคอร์รัปชั่นเป็นการประพฤติโดยมิชอบของบุคคล โดยมุ่งเน้นไปตำแหน่งที่ภายใต้ภาระหน้าที่ของราชการ 

สิ่งที่คำนิยามเหล่านี้ยังตกหล่นไปคือการอธิบายคอร์รัปชั่นในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางสังคม โดยส่วนมากจะเน้นไปในการกระทำของบุคคลที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบเพื่อผลประโยชน์ โดยคำนิยามเหล่านี้ยังไม่ได้อธิบายไปถึงสภาพของความเป็นประชาธิปไตยหรือธรรมภิบาล หรือประเด็นการเมือง สังคมและการปกครองในลักษณะอื่นๆ แล้วพวกคุณละให้คำนิยามคอร์รัปชั่นว่าอย่างไร?

ในไทยมักจะเห็นประเด็นคอร์รัปชั่นถูกใช้เมื่อมีการใส่ร้ายทางการเมือง แต่ในความเป็นการคอร์รัปชั่นนั้นส่งผลเสียระยะยาวในหลายมิติและมีผลกระทบโดยตรงและอ้อมถึงทุกคนในสังคม ตั้งแต่ปัญหาสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม ความยากจน ความเป็นละเว้นจากการทำผิด (impunity) ปัญหาความรุนแรงและความขัดแย้งทางอาวุธ  ปัญหาอาชญากรข้ามชาติ และการเกลียดชังเพื่อนมนุษย์ หากมองเผินๆ ก็ดูเหมือนว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกัลบการคอร์รัปชั่นกันเลย แต่หากคิดกันให้ดีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลให้เกิดปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการละเลยหรือการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรมในหลายบริบท ยกตัวอย่างเช่นองค์กรหลอกลวงคอลเซนเตอร์คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากรัฐมีการจัดการอย่างจริงจังโดยกฎหมายและอำนาจ อาชญากรข้ามชาติคงไม่สามารถดำเนินธุรกิจสีเทาข้ามชาติได้หากระหว่างหลายๆรัฐบาลร่วมมือกันเพื่อจำกัดองค์กรเหล่านี้ ในกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน หากกระบวนเหล่านี้เต็มได้ด้วยความโปร่งใสสามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ตามบัญญัติของกฎหมาย สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดอาชญากรรมลงได้ 

แล้วพวกคุณละ คิดว่าคอร์รัปชั่นส่งผลเสียแก่ตัวเองและสังคมอย่างไรบ้าง?

อนุสัญญาต่อต้านคอร์รัปชั่น (UNCAC) เป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศเพียงฉบับเดียวในโลกที่มีความยึดโยงทางกฎหมายในการต่อต้านการทุจริต ปัจจุบันมีรัฐบาลทั่วโลกร่วมเป็นภาคี 191 ประเทศ (ประเทศในสหประชาชาติทั้งหมดมี 193 ประเทศ) โดยมุ่งเน้นการทำงานหาทางร่วมมือในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นในระดับสากล และมีระบบกลไกตรวจสอบของประเทศสมาชิกที่เรียกว่า “การจัดประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริต (CoSp)” ซึ่งในกลไกนี้มีเพียงแค่การทำงานระหว่างรัฐบาลเท่านั้น ยังขาดการร่วมมือระหว่างภาคประชาชน ภาคธุรกิจหรือองค์กรอื่นๆ 

อนุสัญญา UNCAC นั่นไม่ได้ให้คำนิยามของคอร์รัปชันไว้อย่างชัดเจน แต่ได้ระบุถึงพฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการคอร์รัปชัน ไว้ในบทที่ 3 ของอนุสัญญา

พฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการคอร์รัปชันที่ถูกระบุไว้ในอนุสัญญานั้นได้แก่:  
1. การให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐ (มาตรา 15)
2. การให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศหรือองค์กรข้ามชาติ (มาตรา 16)
3. การยักยอกเงิน การเบียดบัง หรือการกระทำเพื่อถ่ายเททรัพย์สินโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ (มาตรา 17)
4. การใช้อิทธิพลเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์อันมิชอบ (มาตรา 18) 
5. การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (มาตรา 19) 
6. การร่ำรวยโดยผิดกฎหมาย (มาตรา 20) 
7. การให้สินบนในภาคเอกชน (มาตรา 21)
8. การยักยอกทรัพย์สินในภาคเอกชน (มาตรา 22) 
9. การฟอกทรัพย์สินที่ได้มากจากการกระทำความผิดอาญา (มาตรา 23)
10. การปกปิด (มาตรา 24)
11. การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม (มาตรา 25) 

เมื่อประเทศภาคีได้ลงนามแล้ว ตามหลักการของอนุสัญญาก็ควรออกกฎหมายเพื่อปกป้องและควบคุมไม่ให้พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ในเชิงปฏิบัติแม้หลายประเทศพยายามออกกฎหมายห้ามปราบ แต่รูปแบบของการคอร์รัปชันก็สามารถปรับตัวตามสภาพของกฎหมายให้มีลักษณะที่ซับซ้อนและตรวจจับได้ยากขึ้น

พวกคุณคิดว่า การที่จะหยุดพฤติการณ์คอร์รัปชันเหล่านี้ได้ ควรทำอย่างไร ?  

การประเมินผลคอร์รัปชัน

ในความเป็นจริงแล้วการประเมินคอร์รัปชันนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ “ยาก” เพราะพฤติการณ์คอร์รัปชันนั้นมักเป็นกระทำในรูปแบบที่ปกปิดเพื่อให้ตรวจสอบได้ยาก นวัตกรรมการประเมินคอร์รัปชันส่วนมากจึงมักจะประเมินผ่าน “มุมมอง การรับรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก” ต่อความเข้าใจในสถานการณ์สังคมภาพรวมต่อการเกิดคอร์รัปชัน 

องค์กรที่ทำการประเมินคอร์รัปชันในระดับสากลได้แก่ Transparency International (TI) ที่ทำงานประเมินสถานการณ์คอร์รัปชันของรัฐบาลทั่วโลกผ่านการสอบถามความคิดเห็นของประชาชน ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละประเทศ เรียกว่า “ดัชนีชี้วัดการรับรู้ด้านทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI)”  ประเทศในอาเซียนส่วนมากมักได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (นอกจากสิงคโปร์) และก็มีแนวโน้มที่จะไม่สามารถจะยกระดับการแก้ไขคอร์รัปชันได้

ในประเทศไทยเองนั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำมาตราวัดการรับรู้คอร์รัปชันระดับประเทศขึ้นมาคือ “การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA)” เพื่อประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส่ในหน่วยงานภาครัฐ โดยหากเปรียบเทียบคะแนนระหว่าง CPI และ ITA มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน คือคะแนน CPI ที่ประเมินโดยองค์กรนอกประเทศ ประเมินว่าสถานการณ์คอร์รัปชันของไทยคงที่และไม่มีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น แต่คะแนน ITA ที่ประเมินในระดับประเทศของไทย แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์คอร์รัปชันของประเทศไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี

พวกคุณคิดอย่างไรกับคะแนนดัชนีรับรู้คอร์รัปชัน คะแนนประเมินอันไหน น่าเชื่อถือกว่ากัน ระหว่าง CPI หรือ ITA?

ในการทำงานต่อต้านคอร์รัปชันระดับภูมิภาคอาเซียน ได้มีความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานของแต่ละรัฐเรียกว่า “หน่วยงานต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียน (The Southeast Asia Parties Against Corruption: ASEAN-PAC)” โดยแต่ละองค์กรที่ได้รับการมอบหมายจำเป็นจะต้องทำงานระหว่างกันในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในระดับภูมิภาค โดยมีวัตถุประสงค์ห้าข้อได้แก่

1. เพื่อแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลและร่วมมือกันในการต่อต้านการทุจริต

2. เพื่อร่วมมือกันในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะวิชาชีพ

3. เพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและบุคลากรในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต

4. เพื่อเป็นเจ้าภาพและเข้าร่วมในการประชุม ฟอรัม การอบรม และการประชุมสัมมนา

5. เพื่อให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคในกิจกรรมปฏิบัติการ

ASEAN-PAC ได้มี MoU ลงนามอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2547 ถือเป็นการเริ่มต้นการทำงานระดับภูมิภาคอาเซียนขึ้นมาเพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน อย่างไรก็ตาม การทำงานของ ASEAN-PAC กับถูกมองว่ายังไม่มีความโปร่งใสเท่าที่ควร เพราะประชาชนแทบจะไม่ถามถึงแผนงาน ผลการประชุมของ ASEAN-PAC เลย

แม้ว่าเราจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับคอร์รัปชัน แต่การคอร์รัปชันก็ยังส่งผลถึงพวกเราทุกคนไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม และอย่างที่เห็นได้ชัดว่าบทบาทของรัฐบาลมีความสำคัญมากในการขับเคลื่อนการแก้ไขคอร์รัปชัน บทบาทของทุกคนก็มีความสำคัญไม่แพ้ในการที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน

สุดท้ายนี้ มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า พวกเรามีการรับรู้ปรากฎการณ์คอร์รัปชันแบบไหนกันบ้าง พวกคุณคิดอย่างไรกับคำถามเหล่านี้

  • รัฐบาลมีการบริหารจัดการคอร์รัปชันที่ดีหรือไม่ ?
  • รัฐบาลอาเซียนมีการความโปร่งใส่และธรรมาภิบาลหรือไม่ ?
  • คุณทราบหรือไม่ว่าหน่วยงานต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN-PAC)  เค้าพูดคุยอะไรกันบ้าง ?
  • คุณคิดว่ารัฐของคุณจะแก้ไขปัญหาคาสิโน คอลเซ็นเตอร์ออนไลน์ได้หรือไม่ ?
  • คุณเชื่อหรือไม่ว่าระบบศาลในประเทศของคุณมีความยุติธรรม ?
  • คุณว่าระบบรัฐสภาในปัจจุบันจะแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้หรือไม่ ?
  • เจ้าหน้าที่รัฐในประเทศของคุณชอบเก็บส่วยขูดรีดหรือไม่ ?
  • คุณเชื่อว่าปัญหาคอร์รัปชันจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ?
  • คุณคิดว่าการคอร์รัปชันส่งผลถึงประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างไร ?
  • คุณคิดว่าใครคือผู้ได้รับผลประโยชน์จากการคอร์รัปชันมากที่สุด ?
]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99/feed/ 0
Fight to Decriminalization on Sex Work in Thailand & the Systemic Corruption https://pefthailand.org/fight-to-decriminalization-on-sex-work-in-thailand-the-systemic-corruption/ https://pefthailand.org/fight-to-decriminalization-on-sex-work-in-thailand-the-systemic-corruption/#respond Tue, 01 Oct 2024 03:56:16 +0000 https://pefthailand.org/?p=9211 “We are not wrong. It is the law that is wrong. It is the law that forced us to be illegal workers.”

This statement captures how sex workers perceive corruption in their daily lives. This article seeks to amplify their voices, delving into their experiences with corruption. Readers will gain insight into how systemic bribery and discriminatory laws intersect to exploit and impact the lives of sex workers in Thailand.

]]>
https://pefthailand.org/fight-to-decriminalization-on-sex-work-in-thailand-the-systemic-corruption/feed/ 0
Fact-Finding Humanitarian Report https://pefthailand.org/fact-finding-humanitarian-report/ https://pefthailand.org/fact-finding-humanitarian-report/#respond Wed, 01 May 2024 04:04:01 +0000 https://pefthailand.org/?p=9145 “1,000 – 3,000 is the number of people who have fled to the IDP camps” “Canvas, Tarpaulin and Tents are urgently needs for upcoming rainy season” “The medicines for congenital disease symptoms and the Oral Rehydration Salt (ORD) are needed”

Fact-finding humanitarian report, PEF visited the field for donations and monitored the situation of IDPs after the recent massive fight in the Myawaddy area, investigating the condition of IDPs. This report essentially reviews the needs of IDPs after impacted by armed conflict.

Please access to the full report: https://drive.google.com/file/d/1C9V8P1wRqSfPLG5VJNtgSd0kDGu-e5By/view?usp=sharing

]]>
https://pefthailand.org/fact-finding-humanitarian-report/feed/ 0
Open Joint Statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of Using Aung San Suu Kyi as Human Shield from Attacks by Ethnic Military Forces (Thai language inside) https://pefthailand.org/open-joint-statement-of-condemnation-against-min-aung-hlaings-act-of-using-aung-san-suu-kyi-as-human-shield-from-attacks-by-ethnic-military-forces-thai-language-inside/ https://pefthailand.org/open-joint-statement-of-condemnation-against-min-aung-hlaings-act-of-using-aung-san-suu-kyi-as-human-shield-from-attacks-by-ethnic-military-forces-thai-language-inside/#respond Sat, 27 Apr 2024 07:05:33 +0000 https://pefthailand.org/?p=9141

25 Organizations and 44 Individuals signed joint-statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of Using Aung San Suu Kyi as Human Shield from Attacks by Ethnic Military Forces

The key statement demands

  1. Min Aung Hlaing and the State Administration Council (SAC) must immediately reveal the conditions and whereabouts of Aung San Suu Kyi and U Win Myin without any condition for the sake of transparency and expressing intentions to release them following humanitarian principles, and for their health as was announced to the international society.
  2. Kim Aris should be granted permission to see his mother as a family member according to humanitarian principles.
  3. The international society, ASEAN and Thailand should condemn and protest against this action, without acknowledging legitimacy in the government led by Min Aung Hliang from now on.
  4. The international society, ASEAN and Thailand, abiding to international humanitarian principles, should revise their foreign policies with Myanmar in order to cause positive changes in the region.
  5. The international society, ASEAN and Thailand should support people in Myanmar in restoration of and transition to sustainable democracy in the country.

25 องค์กรและ 44 บุคคลร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมประณาม มิน อ่อง ลายที่จะใช้นางออง ซานซู จี เป็นโลห์มนุษย์ป้องกันการโจมตีเนปิดอว์จากกองกำลังต่อต้านชาติพันธ์ุ

พวกเราเรียกร้องให้

  1. มินอองลายและกองทพัพม่าต้องเปิดเผยสถานภาพและสถานที่กักขังของออง ซาน ซูจี และอู วิน มิน โดยททันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
  2. คิม อีริค ควรได้รับอนุญาตในการเข้าพบแม่ของเธอในฐานะที่เป็นสมาชิกครอบครัวให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม
  3. ประชาคมโลก อาเซียนและประเทศไทย ต้องประณามและคัดค้านการกระทำนี้ ทั้งไม่ยอมรับความชอบธรรมในการปกครองประเทศพม่าของ มิน ออง ลายอีกต่อไป
  4. ประชาคมโลก อาเซียนและประเทศไทยต้องมีการทบทวนท่าที นโยบายต่างประเทศต่อประเทศเมียนมาร์ ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคและต้องยึดมั่นในหลักการมนุษยธรรมสากล
  5. ประชาคมโลก อาเซียนและประเทศไทยต้องช่วยเหลือประชาชนพม่าในการฟื้นฟูประเทศชาติ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยของ เมียนมาร์อย่างยั่งยืน

Access full statement: https://drive.google.com/file/d/1wFPR3i4IifAycfUCr7nLF9byI9dPqn1Q/view?usp=sharing

]]>
https://pefthailand.org/open-joint-statement-of-condemnation-against-min-aung-hlaings-act-of-using-aung-san-suu-kyi-as-human-shield-from-attacks-by-ethnic-military-forces-thai-language-inside/feed/ 0
ใครคอร์รัปมากกว่ากัน? https://pefthailand.org/%e0%b9%83%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99/ https://pefthailand.org/%e0%b9%83%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99/#respond Thu, 21 Mar 2024 01:10:07 +0000 https://pefthailand.org/?p=9049 ใครคอร์รัปมากกว่ากัน?

คำถามนี้คงเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก เพราะปัญหาคอร์รัปชั่นนั้นอยู่คู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด ทุกสถาบันในสังคมไทยล้วนมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นทั้งนั้น แต่การคอร์รัปชั่นจะส่งผลเลวร้ายที่สุดเมื่อผู้มีอำนาจสูงสุดของรัฐเป็นผู้ทำการคอร์รัป คำถามต่อมาที่สำคัญก็คือรัฐบาลประเภทไหนที่คอร์รัปมากกว่ากัน ในบทความนี้จะเป็นผลสรุปของการศึกษาการคอร์รัปชั่นของรัฐบาลโดยเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและรัฐบาลเผด็จการที่ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร

“การเสียชีวิตของจอมพล สู่การเปิดเผยคอร์รัปชั่น”

การเสียชีวิตของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชในปี 1963 ได้นำไปสู่การเปิดเผยทรัพย์สินที่ถูกถือครองอยู่จำนวน 2,800 ล้านบาท ซึ่งได้พบว่ามีการใช้เงินของรัฐบาลในการนำไปต่อยอดลงทุนทรัพย์สินเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและคนใกล้ชิด จอมพลสฤษดิ์และภรรยานั้นมีทรัพย์สินอยู่ในกว่า 45 บริษัทเอกชน มีการถือครองบัญชีธนาคารมากมายและครอบครองที่ดินกว่า 9,000 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่า เงินกว่า 394 ล้านบาทนั้นมาจากงบลับของกองทุนตรวจสอบความมั่นคงภายใต้อำนาจของนายกรัฐมนตรี 240 ล้านบาทหน่วยงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และประมาณ 100 ล้านบาทจากส่วนแบ่งกำไรยอดขายของสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยรัฐบาลต่อมาสามารถยึดทรัพย์สินคืนได้เพียง 604 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นประมาณเพียง 20% ของทรัพย์สินทั้งหมดที่สามารถยึดคืนได้เท่านั้น  

“การคอร์รัปชั่นภายใต้รัฐบาลชาติชายและการรัฐประหาร”

จนกระทั่งในปี 1988 ประเด็นคอร์รัปชั่นได้กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งในยุคของรัฐบาลชาติชาย ชุนหะวัน ซึ่งเป็นยุคที่เศรษฐกิจเติบโต มีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมากมายจากรัฐบาล แต่ละโปรเจคนั้นมีงบการพัฒนาสูงถึงหลายพันล้านบาท ซึ่งมีข่าวลือและการคาดการณ์ว่ามีการรับ “สินบน” ในโครงการพัฒนาเหล่านั้น  เจ้าหน้าที่รัฐบางคนที่ถูกแต่งตั้งโดยนายกชาติชายนั้นถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้ ขอบเขตของการคอร์รัปชั่นนั้นยังถูกขยายไปถึงงบสนับสนุนด้านมนุษยธรรมจากต่างประเทศในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ทหารและกองทัพก็มีข่าวลือในด้านลบจากการรับ “เงินทอน” จากการซื้อขายอาวุธ และในท้ายที่สุดรัฐบาลชาติชายก็ถูกรัฐประหารจากข้อกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น ภายหลังจากการรัฐประหาร เกิดการพยายามสร้างข่าวให้เห็นว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีความชั่วร้ายมากกว่าในการคอร์รัปชั่น

“งบประมาณของรัฐที่สูญเสียไปกับการคอร์รัปชั่น”

รูปแบบการคอร์รัปชั่นที่มาจากอำนาจรัฐส่วนใหญ่จะมีลักษณะของการได้รับส่วนแบ่ง (kickback) หรือการโกงจากงบโครงการพัฒนาระดับใหญ่ๆของรัฐ ยิ่งโครงการยิ่งใหญ่ยิ่งได้รับเปอร์เซ็นต์หรือเงินทอนที่มากขึ้น หลังจากนั้นไทยได้มีการแต่งตั้งองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบคอร์รัปชั่นขึ้นมาได้แก่ คณะป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (the Counter Corruption Commission: CCC) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (the Office of Auditor General: OAG) ทั้งสองคณะได้มีการตรวจสอบรูปแบบของโครงการพัฒนาของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นได้หลายลักษณะ โดยเฉพาะในช่วงก่อน ปี 1976

  • การซื้อที่ดินเกินราคาประเมิน: ในปี 1972 มีการค้นพบเคสกรณีที่กรมตำรวจซื้อที่ดินเกินราคาประเมิน โดยครั้งนั้นรัฐจ่ายเงินเกินไปโดยประมาณ 23.4 ล้านบาทโดยมีราคาสูงกว่าราคาประเมินถึง 52 เปอร์เซ็นต์จากงบโครงการ
  • การร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ: ในช่วงปี 1968-1972 มีการพบว่ามีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภายใต้โครงการของรัฐ เช่น การซื้อวัสดุก่อสร้างเกินราคา การใช้จ่ายที่ไม่สมเหตุสมผล โดยงบที่ใช้จ่ายเป็นเงินมาจากงบของรัฐบาล มีการประเมินว่าในหนึ่งโครงการมีการจัดซื้อเกินราคาประมาณอย่างต่ำที่สุดคือ 13.4 เปอร์เซ็นต์จากงบของโครงการ
  • สิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้มาตราฐาน: ในช่วงปี 1968 มีการค้นพบการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ไม่ได้มาตรฐาน ตัวสิ่งปลูกสร้างมีอาการพังทลายซึ่งมีเหตุมาจากการรับน้ำหนักไม่ไหว จากการสืบสวนพบว่ามีการใช้วัสดุที่ไม่เป็นไปตามมาตราฐานก่อสร้าง ในเคสหนึ่งจากเสียหายจากการก่อสร้างโรงเรียนของรัฐ พบว่ามีการโกงจากงบประมาณ 42-50 เปอร์เซ็นต์จากงบก่อสร้างทั้งหมด
  • การจัดซื้อจัดจ้าง: ในปี 1970 โครงการก่อสร้างเขื่อนชลประทาน มีการพบการโกงการซื้อขายจำนวนปูนซีเมนส์ในการผลิตแต่ละวัน ซึ่งมีจำนวนซีเมนส์ที่ได้มาน้อยกว่าที่ตกลงกันตามใบสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง
  • การปลอมแปลงใบเสร็จ: ในช่วงปี 1973 มีการค้นพบว่าเทศบาลอยุธยาได้ปลอมใบเสร็จจากโครงการซ่อมถนน และจากการสืบสวนตรวจสอบพบว่าไม่ได้มีการซ่อมถนนจริง ถือว่าเป็นการคอร์รัปชั่นทั้งหมด 100% จากงบประมาณของโครงการ และมีการตรวจพบการปลอมแปลงใบเสร็จอีกในหลายโครงการ
  • การคอร์รัปชั่นการซื้อที่ดินจากโครงการปลูกป่า: มีการค้นพบการคอร์รัปชั่นภายใต้โครงการปลูกป่าของรัฐ โดยการใช้พื้นที่ปลูกป่าใหม่จำนวน 3,000 ไร่ โดยมีต้นทุนอยู่ที่  700 บาทต่อไร่ แต่พอถึงเวลาจริงมีการค้นพบว่ามีการปลูกพื้นป่าจริงเพียงแค่ 2,400 ไร่

ยังมีการค้นพบถึงการคอร์รัปชั่นอีกมากที่มาจากโครงการภายใต้รัฐบาล เช่น การร่ำรวยผิดปกติของเจ้าหน้าระดับสูง การลักขโมยและยักยอกทรัพย์สินของรัฐเป็นของส่วนตน และภายใต้รัฐบาลทหารมีการพบเจอประเด็นคอร์รัปชั่นเกี่ยวกับการซื้ออาวุธของกองทัพด้วย การคอร์รัปชั่นภายใต้โครงการพัฒนาของรัฐทำให้ประเทศชาติล้วนสูญเสียทรัพยากรที่ควรจะนำไปพัฒนาให้กับประชาชนจำนวนมาก ซึ่งล้วนเป็นหน้าที่รับผิดชอบของรัฐบาลและผู้มีอำนาจในแต่ละยุคสมัย

“เปรียบเทียบความรุนแรงจากการคอร์รัปชั่นระหว่างรัฐบาลเลือกตั้งและรัฐบาลเผด็จการ”

จากการศึกษาเปรียบเทียบเรื่องความรุนแรงจากการคอร์รัปชั่นระหว่างรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งและการรัฐประหาร โดยเปรียบเทียบระหว่างสองรัฐบาลคือรัฐบาลทหารยุคของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของรัฐบาลชาติชาย ชุนหะวัน พบว่าสัดส่วนการคอร์รัปชั่นจากรัฐบาลทหารมีจำนวนมากกว่า โดยประเมินว่าในแต่ละปีจำนวนงบประมาณที่ถูกคอร์รัปชั่นภายใต้จอมพลสฤษดิ์คือประมาณ 0.14 % ของ GDP ซึ่งในช่วงรัฐบาลชาติชายมีสัดส่วนประมาณ 0.04 % ­ของ GDP จากตัวเลขจะเห็นได้ว่าคอร์รัปชั่นภายใต้รัฐบาลเผด็จทหารนั้นมีสัดส่วนที่ ”มากกว่า” การคอร์รัปชั่นภายใต้รัฐบาลพลเรือน
(การศึกษาครั้งนี้ สามารถตรวจสอบทรัพย์สินของจอมพลสฤษดิ์ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีทรัพย์สินอีกบางส่วนที่ไม่สามารถตรวจสอบได้)

อย่างไรก็ดีการตรวจสอบคอร์รัปชั่นจากสองรัฐบาลก็ยังมีข้อจำกัดอีกมากในการตรวจสอบทั้งหมด ยิ่งการเข้าถึงหลักฐานข้อมูลจากรัฐบาลเผด็จการนั้นก็ทำได้ยากมาก มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้อธิบายว่าการตรวจสอบคอร์รัปชั่นภายใต้รัฐบาลเผด็จการนั้นทำได้ยาก เพราะการรวมศูนย์อำนาจและไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ในส่วนของรัฐบาลพลเรือนนั้นแม้ว่าจะมีการพบเจอการคอร์รัปชั่นเช่นกัน แต่ก็เป็นการคอร์รัปชั่นที่ถูกตรวจสอบได้ง่ายกว่าและมีกลไกตรวจสอบ

กล่าวโดยสรุป อำนาจทางการเมืองทางปกครองมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการคอร์รัปชั่น แม้ว่าการคอร์รัปชั่นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและรัฐบาลเผด็จการ แต่โดยผลลัพธ์แล้วรัฐบาลเผด็จการมีโอกาสที่จะเกิดการคอร์รัปชั่นได้มากกว่าเนื่องจากการรวมศูนย์ของอำนาจเบ็ดเสร็จและยากในการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นหนึ่งในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นที่ดีคือการสร้างระบบรัฐที่มีความโปร่งใส มีการคานอำนาจการตรวจสอบระหว่างกัน ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยจึงมีความสำคัญมากในการสร้างกลไกตรวจสอบและป้องกันคอร์รัปชั่น ภาคประชาชนทุกคนจึงควรให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง การร่วมตรวจสอบและต่อต้านการรัฐประหารหรือรูปแบบของอำนาจเผด็จการนิยมทุกรูปแบบ และที่สำคัญการรัฐประหารไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น

Key Point

*การแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่นด้วยการรัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

*การตรวจสอบคอร์รัปชั่นของรัฐบาลเผด็จการทหาร ทำได้ยากมาก เพราะการรวมศูนย์ของอำนาจ

*รัฐบาลสฤษดิ์ (1957-1963) พบว่ามีทรัพย์สินทั้งหมด 2,874 ล้านบาท (ถูกตัดสินยึดคืนแก่แผ่นดิน 604 ล้านบาท)

*รัฐบาลชาติชาย (1988-1990) ถูกค้นพบว่ามีนักการเมือง 10 คน ที่ถูกยึดทรัพย์สินรวมกัน 1,900 ล้านบาท (โดยนายกชาติชายถูกยึดทรัพย์จำนวน 284 ล้านบาท)

* 2,874,000,000 บาทในปี 1963 มีมูลค่าเท่ากับ 12,961,000,000 บาทในปัจจุบันปี 2024 (คิดอัตราเงินเฟ้อ 2.5% ต่อปี)

* 1,900,000,000 บาทในปี 1990 มีมูลค่าเท่ากับ 4,399,000,000 บาท (คิดอัตราเงินเฟ้อ 2.5% ต่อปี)

*** เนื้อหน้าจากหนังสือ Corruption and Democracy in Thailand บทที่ 2 โดยอาจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตรและอาจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์ ***

#PEF #peoplesempowermentfoundation #มูลนิธิศักยภาพชุมชน #anticorruption

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b9%83%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99/feed/ 0