การ์ตูนสิทธิมนุษยชน ตอนที่ 5 “ผู้ลี้ภัย”

โดยรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ระบุในปี 2022 ว่ามีจำนวนผู้ลี้ภัยโดยประมาณ 32.5 ล้านคนทั่วโลก แต่ทราบหรือไม่ว่าผู้ลี้ภัยเกิดขึ้นได้อย่างไร มีที่มาอย่างไรบ้าง และในบริบทของสากลโลกให้คำนิยามเรื่องผู้ลี้ภัยไว้อย่างไร 

เพียงแค่เหตุการณ์การรัฐประหารสถานการณ์การสู้รบในพม่าตั้งแต่ปี 2021 ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยจำนวนโดยประมาณ 1,330,591 โดยส่วนมากจะลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งอินเดีย บังคลาเทศและไทย และในทุกวันนี้จำนวนผู้ลี้ภัยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น

การ์ตูนสิทธิมนุษยชนตอนที่ 5 “ผู้ลี้ภัย” 

ผู้ลี้ภัยเป็นหนึ่งประเด็นที่มีหลักจารีตประเพณีสากลระหว่างประเทศรับรองให้สิทธิผู้ลี้ภัยนี้ต้องถูกรับรองตามหลักจารีตสากลแม้ว่าจะไม่มีกฎหมายรองรับในประเทศนั้น  ๆ ก็ตาม ทุกประเทศจะต้องไม่ส่งคนเหล่านี้กลับประเทศ หากนำไปสู่ภัยอันตรายหากส่งผลถึงชีวิตและการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน 

ในทุก ๆ วันนี้ จากสถานการณ์ความไม่สงบทางสงครามในหลายประเทศ เชื่อหรือไม่ว่าพวกเราทุกคนอาจเคยเดินผ่านผู้ลี้ภัยมาแล้วในชีวิตประจำวัน โดยที่ทุกคนอาจจะไม่ได้ตระหนักว่าเค้าเหล่านั้นคือ “ผู้ลี้ภัย” นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาร่วมทำความเข้าใจผู้ลี้ภัยเพื่อให้พวกเราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเข้าใจเพื่อนมนุษย์กันผ่านการ์ตูนสิทธิมนุษยชนในตอนที่ 5 ผู้ลี้ภัย

“ที่มาของคำว่าผู้ลี้ภัย”

คำว่าผู้ลี้ภัยโดยตามประวัติศาสตร์มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า Refugie ในปี 1685 ถูกใช้ครั้งแรกโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ส่งผลให้เกิดผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลุ่มแรกๆหลังจากการยกเลิกพระราชกฤษฎีกาน็องต์ (The Edict of Nantes) และในช่วงสงครามโลก มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากเกิดขึ้นมาจากภัยสงคราม ความขัดแย้งทางการเมืองและชาติพันธุ์ รวมถึงการแย่งชิงทรัพยากร 

“อนุสัญญาผู้ลี้ภัย 1951” และ “พิธีสารเลือกรับ 1967” 

ในบริบทสากลโลกอนุสัญญาผู้ลี้ภัย 1951 ในปัจจุบันได้ถือกลายเป็นหลักจารีตประเพณีสากลที่ทุกประเทศล้วนต้องปฏิบัติตามเพื่อคุ้มครองผู้ลี้ภัยและห้ามส่งกลับหากมีภัยอันตราย ในตอนแรกอนุสัญญาผู้ลี้ภัยถูกออกแบบโดยมีข้อจำกัดเฉพาะบุคคลที่ลี้ภัยตั้งแต่ก่อนวันที่ 1 มกราคม 1951 และถูกจำกัดในโซนยุโรป ต่อมาจึงได้ออกพิธีสารเลือกรับในปี 1967 ในการขยายขอบเขตและยกเลิกข้อจำกัดจากบริบทยุโรปสู่ผู้ลี้ภัยทั่วโลก 

“มองมิติผู้ลี้ภัย ผ่านอาเซียน”

แม้ว่าอนุสัญญาผู้ลี้ภัยจะเป็นอนุสัญญาที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและยอมรับเป็นหลักจารีตสากลนั้น แต่ประเทศในอาเซียนนั้นมีเพียงแค่ 2 ประเทศเท่านั้นที่ลงนามได้แก่ ประเทศกัมพูชาและฟิลิปปินส์

ประเทศไทยถึงแม้จะเป็นประเทศที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัยมากที่สุดประเทศหนึ่ง ยกตัวอย่างตั้งแต่เหตุการณ์เขมรแดง สงครามเวียดนามหรือแม้แต่ปัญหาความไม่สงบในพม่า รัฐบาลไทยไม่ว่าในสมัยใดก็ไม่มีเจตนาในการรับรองอนุสัญญาฉบับนี้เลย 

“UNHCR สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ”
UNHCR United Nations High Commissioner for Refugees หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นองค์กรระดับสากลที่ถูกแต่งตั้งโดยผ่านที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติผ่าน Resolution 319 (IV) เมื่อปี 1949 โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทั่วโลก นอกจาก UNHCR แล้วยังมีองค์กรด้านสิทธิฯ รวมถึงบุคคลทั่วไปมากมายที่ยังคงให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักมนุษยธรรม

มีคำนิยามที่เกี่ยวข้องผู้ลี้ภัยมากมายทั้ง คนไร้รัฐ (stateless person) คนผลัดถิ่น (internally displaced person / IDP) ผู้แสวงหาผู้ลี้ภัย (Asylum-seeker) ผู้ลี้ภัย (Refugee) การตั้งถิ่นฐานใหม่ (Resettlement) คำนิยามเหล่านี้แม้จะดูมีความหมายใกล้เคียงกันแต่ก็มีความแตกต่างกันในเชิงบริบทพอสมควร หากเรามีการเข้าถึงคำนิยามที่ถูกต้องจะทำให้สามารถเข้าใจถึงบริบทของสถานะที่คนเหล่านี้กำลังเผชิญอยู่ 

ผู้ลี้ภัย คือ บุคคลที่เดินทางลี้ภัยหลบหนีออกจากประเทศบ้านเกิด เนื่องจากภัยประหัตประหาร ภัยสงคราม การถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ความเชื่อและความคิดเห็นทางการเมือง 

อนุสัญญาผู้ลี้ภัย 1951 ได้ถือกลายเป็นหลักจารีตประเพณีที่แม้จะไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาก็จำเป็นต้องพึงปฏิบัติตาม โดยหลักการพื้นฐานนี้เรียกว่า Non-Refoulment 

ในประเทศอาเซียนมีเพียงแค่สองประเทศที่ลงนามในอนุสัญญานี้คือ ประเทศกัมพูชาและฟิลิปปินส์

Fight to Decriminalization on Sex Work in Thailand & the Systemic Corruption

“We are not wrong. It is the law that is wrong. It is the law... read more

People’s Empowerment Foundation Annual Report 2023

รายงานประจำปี 2023 มูลนิธิศักยภาพชุมชน  Annual Report for PublicDownload read more

การ์ตูนสิทธิมนุษยชน ตอนที่ 5 “ผู้ลี้ภัย”

โดยรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ระบุในปี 2022 ว่ามีจำนวนผู้ลี้ภัยโดยประมาณ 32.5 ล้านคนทั่วโลก แต่ทราบหรือไม่ว่าผู้ลี้ภัยเกิดขึ้นได้อย่างไร มีที่มาอย่างไรบ้าง และในบริบทของสากลโลกให้คำนิยามเรื่องผู้ลี้ภัยไว้อย่างไร  เพียงแค่เหตุการณ์การรัฐประหารสถานการณ์การสู้รบในพม่าตั้งแต่ปี 2021 ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยจำนวนโดยประมาณ 1,330,591 โดยส่วนมากจะลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งอินเดีย บังคลาเทศและไทย... read more

The Process of Marginalization and Corruption in Labour Force

The workforce of the world is the foundation of the economy and thus stimulates growth... read more

Fact-Finding Humanitarian Report

"1,000 - 3,000 is the number of people who have fled to the IDP camps"... read more

Open Joint Statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of Using Aung San Suu Kyi as Human Shield from Attacks by Ethnic Military Forces (Thai language inside)

25 Organizations and 44 Individuals signed joint-statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of... read more

ใครคอร์รัปมากกว่ากัน?

ใครคอร์รัปมากกว่ากัน? คำถามนี้คงเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก เพราะปัญหาคอร์รัปชั่นนั้นอยู่คู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด ทุกสถาบันในสังคมไทยล้วนมีประวัติที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นทั้งนั้น แต่การคอร์รัปชั่นจะส่งผลเลวร้ายที่สุดเมื่อผู้มีอำนาจสูงสุดของรัฐเป็นผู้ทำการคอร์รัป คำถามต่อมาที่สำคัญก็คือรัฐบาลประเภทไหนที่คอร์รัปมากกว่ากัน ในบทความนี้จะเป็นผลสรุปของการศึกษาการคอร์รัปชั่นของรัฐบาลโดยเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและรัฐบาลเผด็จการที่ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร “การเสียชีวิตของจอมพล สู่การเปิดเผยคอร์รัปชั่น” การเสียชีวิตของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชในปี 1963 ได้นำไปสู่การเปิดเผยทรัพย์สินที่ถูกถือครองอยู่จำนวน 2,800 ล้านบาท ซึ่งได้พบว่ามีการใช้เงินของรัฐบาลในการนำไปต่อยอดลงทุนทรัพย์สินเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและคนใกล้ชิด จอมพลสฤษดิ์และภรรยานั้นมีทรัพย์สินอยู่ในกว่า 45... read more

การ์ตูนสิทธิมนุษยชน ตอนที่ 4 “คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน”

การ์ตูนสิทธิมนุษยชน ตอนที่ 4 “คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน” หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “กสม” หรือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนบ้าง แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ถึงหลักการพื้นฐานและที่มาของ กสม และเหตุผลของการตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนในประเทศ โดยคำนิยามของ GANHRI (Global Alliance of National Human... read more