ASEAN Archives - People’s Empowerment Foundation https://pefthailand.org/category/activities/asean/ We believes a world where democracy and human rights are achieved for all, and local communities are respected and included in policy-making processes. Mon, 09 Dec 2024 06:08:08 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.7.1 https://pefthailand.org/wp-content/uploads/2023/07/Logo-3-85x85.png ASEAN Archives - People’s Empowerment Foundation https://pefthailand.org/category/activities/asean/ 32 32 ทำความเข้าใจคอร์รัปชันในอาเซียน ฉบับรวบรัด 101 “คอร์รัปชันคืออะไร ?” https://pefthailand.org/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99/ https://pefthailand.org/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99/#respond Mon, 09 Dec 2024 06:08:05 +0000 https://pefthailand.org/?p=9226 ทำความเข้าใจอคอร์รัปชั่นในอาเซียนฉบับรวบรัด 101 “คอร์รัปชั่นคืออะไร?”  เนื่องในวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีถือเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากลที่คอยเตือนให้ทุกประเทศในภาคีของสหประชาชาติ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปรากฎการณ์คอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นทั่วโลก  เนื่องจากไม่มีคำนิยามสากลของคำว่า “คอร์รัปชั่น” ทำให้คำนี้ถูกตีความและให้ความหมายที่แตกต่างกันในแต่ละบริบทของประเทศ ภูมิศาสตร์ไปจนถึงสถานะทางสังคม ในประเทศไทยคำว่าคอร์รัปชั่นมักถูกพูดถึงในบริบททางการเมือง มักถูกอ้างไว้สำหรับโจมตีและทำลายความน่าเชื่อถือของขั้วตรงข้าม แต่จริงๆแล้วพวกเรารู้อะไรอีกบ้างเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น?  มาร่วมเรียนรู้ไปกับพวกเราเกี่ยวกับความเข้าใจคอร์รัปชั่น ทั้งในระดับสากลและภูมิภาคอาเซียนของพวกเรา มีอะไรที่พวกเรารู้และไม่รู้บ้าง ว่าการคอร์รัปชั่นส่งผลอย่างไรกับพวกเราทั้งทางตรงและทางอ้อม คอร์รัปชั่น ยังไม่มีคำนิยามระดับสากลที่ใช้ร่วมกัน ทำให้แต่ละรัฐบาล องค์กรใหญ่ๆ จึงได้สร้างคำนิยามคอร์รัปชั่นขึ้นมาเอง โดยคำนิยามส่วนมากมีทิศทางที่เป็นไปในลักษณะของการ”ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ที่คนเหล่านั้นไม่สมควรได้” จะมีแตกต่างเพียงนิดหน่อยคือการให้ระดับความสำคัญของบุคคลที่เป็นผู้กระทำ ที่หมายถึง อำนาจสาธารณะ (หรือรัฐ) อย่างเช่นตัวอย่างคำนิยามของธนาคารโลก (World Bank) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา (OECD)  หนึ่งในคำนิยามที่มักถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดคือคำนิยามโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: TI) คือ “การใช้อำนาจที่ได้รับไว้วางใจในทางที่ผิดเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว”  ในส่วนของประเทศไทยนั้น คำนิยามที่ชัดเจนที่สุดอยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งให้ความหมายในลักษณะที่ว่าการคอร์รัปชั่นเป็นการประพฤติโดยมิชอบของบุคคล โดยมุ่งเน้นไปตำแหน่งที่ภายใต้ภาระหน้าที่ของราชการ  สิ่งที่คำนิยามเหล่านี้ยังตกหล่นไปคือการอธิบายคอร์รัปชั่นในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางสังคม โดยส่วนมากจะเน้นไปในการกระทำของบุคคลที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบเพื่อผลประโยชน์ โดยคำนิยามเหล่านี้ยังไม่ได้อธิบายไปถึงสภาพของความเป็นประชาธิปไตยหรือธรรมภิบาล หรือประเด็นการเมือง สังคมและการปกครองในลักษณะอื่นๆ แล้วพวกคุณละให้คำนิยามคอร์รัปชั่นว่าอย่างไร? ในไทยมักจะเห็นประเด็นคอร์รัปชั่นถูกใช้เมื่อมีการใส่ร้ายทางการเมือง แต่ในความเป็นการคอร์รัปชั่นนั้นส่งผลเสียระยะยาวในหลายมิติและมีผลกระทบโดยตรงและอ้อมถึงทุกคนในสังคม ตั้งแต่ปัญหาสิทธิมนุษยชน […]

The post ทำความเข้าใจคอร์รัปชันในอาเซียน ฉบับรวบรัด 101 “คอร์รัปชันคืออะไร ?” appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>

ทำความเข้าใจอคอร์รัปชั่นในอาเซียนฉบับรวบรัด 101 “คอร์รัปชั่นคืออะไร?” 

เนื่องในวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีถือเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากลที่คอยเตือนให้ทุกประเทศในภาคีของสหประชาชาติ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปรากฎการณ์คอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นทั่วโลก 

เนื่องจากไม่มีคำนิยามสากลของคำว่า “คอร์รัปชั่น” ทำให้คำนี้ถูกตีความและให้ความหมายที่แตกต่างกันในแต่ละบริบทของประเทศ ภูมิศาสตร์ไปจนถึงสถานะทางสังคม ในประเทศไทยคำว่าคอร์รัปชั่นมักถูกพูดถึงในบริบททางการเมือง มักถูกอ้างไว้สำหรับโจมตีและทำลายความน่าเชื่อถือของขั้วตรงข้าม

แต่จริงๆแล้วพวกเรารู้อะไรอีกบ้างเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น? 

มาร่วมเรียนรู้ไปกับพวกเราเกี่ยวกับความเข้าใจคอร์รัปชั่น ทั้งในระดับสากลและภูมิภาคอาเซียนของพวกเรา มีอะไรที่พวกเรารู้และไม่รู้บ้าง ว่าการคอร์รัปชั่นส่งผลอย่างไรกับพวกเราทั้งทางตรงและทางอ้อม

คอร์รัปชั่น ยังไม่มีคำนิยามระดับสากลที่ใช้ร่วมกัน ทำให้แต่ละรัฐบาล องค์กรใหญ่ๆ จึงได้สร้างคำนิยามคอร์รัปชั่นขึ้นมาเอง โดยคำนิยามส่วนมากมีทิศทางที่เป็นไปในลักษณะของการ”ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ที่คนเหล่านั้นไม่สมควรได้” จะมีแตกต่างเพียงนิดหน่อยคือการให้ระดับความสำคัญของบุคคลที่เป็นผู้กระทำ ที่หมายถึง อำนาจสาธารณะ (หรือรัฐ) อย่างเช่นตัวอย่างคำนิยามของธนาคารโลก (World Bank) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา (OECD) 

หนึ่งในคำนิยามที่มักถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดคือคำนิยามโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: TI) คือ “การใช้อำนาจที่ได้รับไว้วางใจในทางที่ผิดเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว” 

ในส่วนของประเทศไทยนั้น คำนิยามที่ชัดเจนที่สุดอยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งให้ความหมายในลักษณะที่ว่าการคอร์รัปชั่นเป็นการประพฤติโดยมิชอบของบุคคล โดยมุ่งเน้นไปตำแหน่งที่ภายใต้ภาระหน้าที่ของราชการ 

สิ่งที่คำนิยามเหล่านี้ยังตกหล่นไปคือการอธิบายคอร์รัปชั่นในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางสังคม โดยส่วนมากจะเน้นไปในการกระทำของบุคคลที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบเพื่อผลประโยชน์ โดยคำนิยามเหล่านี้ยังไม่ได้อธิบายไปถึงสภาพของความเป็นประชาธิปไตยหรือธรรมภิบาล หรือประเด็นการเมือง สังคมและการปกครองในลักษณะอื่นๆ แล้วพวกคุณละให้คำนิยามคอร์รัปชั่นว่าอย่างไร?

ในไทยมักจะเห็นประเด็นคอร์รัปชั่นถูกใช้เมื่อมีการใส่ร้ายทางการเมือง แต่ในความเป็นการคอร์รัปชั่นนั้นส่งผลเสียระยะยาวในหลายมิติและมีผลกระทบโดยตรงและอ้อมถึงทุกคนในสังคม ตั้งแต่ปัญหาสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม ความยากจน ความเป็นละเว้นจากการทำผิด (impunity) ปัญหาความรุนแรงและความขัดแย้งทางอาวุธ  ปัญหาอาชญากรข้ามชาติ และการเกลียดชังเพื่อนมนุษย์ หากมองเผินๆ ก็ดูเหมือนว่าปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกัลบการคอร์รัปชั่นกันเลย แต่หากคิดกันให้ดีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลให้เกิดปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการละเลยหรือการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรมในหลายบริบท ยกตัวอย่างเช่นองค์กรหลอกลวงคอลเซนเตอร์คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากรัฐมีการจัดการอย่างจริงจังโดยกฎหมายและอำนาจ อาชญากรข้ามชาติคงไม่สามารถดำเนินธุรกิจสีเทาข้ามชาติได้หากระหว่างหลายๆรัฐบาลร่วมมือกันเพื่อจำกัดองค์กรเหล่านี้ ในกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน หากกระบวนเหล่านี้เต็มได้ด้วยความโปร่งใสสามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ตามบัญญัติของกฎหมาย สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดอาชญากรรมลงได้ 

แล้วพวกคุณละ คิดว่าคอร์รัปชั่นส่งผลเสียแก่ตัวเองและสังคมอย่างไรบ้าง?

อนุสัญญาต่อต้านคอร์รัปชั่น (UNCAC) เป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศเพียงฉบับเดียวในโลกที่มีความยึดโยงทางกฎหมายในการต่อต้านการทุจริต ปัจจุบันมีรัฐบาลทั่วโลกร่วมเป็นภาคี 191 ประเทศ (ประเทศในสหประชาชาติทั้งหมดมี 193 ประเทศ) โดยมุ่งเน้นการทำงานหาทางร่วมมือในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นในระดับสากล และมีระบบกลไกตรวจสอบของประเทศสมาชิกที่เรียกว่า “การจัดประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริต (CoSp)” ซึ่งในกลไกนี้มีเพียงแค่การทำงานระหว่างรัฐบาลเท่านั้น ยังขาดการร่วมมือระหว่างภาคประชาชน ภาคธุรกิจหรือองค์กรอื่นๆ 

อนุสัญญา UNCAC นั่นไม่ได้ให้คำนิยามของคอร์รัปชันไว้อย่างชัดเจน แต่ได้ระบุถึงพฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการคอร์รัปชัน ไว้ในบทที่ 3 ของอนุสัญญา

พฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการคอร์รัปชันที่ถูกระบุไว้ในอนุสัญญานั้นได้แก่:  
1. การให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐ (มาตรา 15)
2. การให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศหรือองค์กรข้ามชาติ (มาตรา 16)
3. การยักยอกเงิน การเบียดบัง หรือการกระทำเพื่อถ่ายเททรัพย์สินโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ (มาตรา 17)
4. การใช้อิทธิพลเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์อันมิชอบ (มาตรา 18) 
5. การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (มาตรา 19) 
6. การร่ำรวยโดยผิดกฎหมาย (มาตรา 20) 
7. การให้สินบนในภาคเอกชน (มาตรา 21)
8. การยักยอกทรัพย์สินในภาคเอกชน (มาตรา 22) 
9. การฟอกทรัพย์สินที่ได้มากจากการกระทำความผิดอาญา (มาตรา 23)
10. การปกปิด (มาตรา 24)
11. การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม (มาตรา 25) 

เมื่อประเทศภาคีได้ลงนามแล้ว ตามหลักการของอนุสัญญาก็ควรออกกฎหมายเพื่อปกป้องและควบคุมไม่ให้พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ในเชิงปฏิบัติแม้หลายประเทศพยายามออกกฎหมายห้ามปราบ แต่รูปแบบของการคอร์รัปชันก็สามารถปรับตัวตามสภาพของกฎหมายให้มีลักษณะที่ซับซ้อนและตรวจจับได้ยากขึ้น

พวกคุณคิดว่า การที่จะหยุดพฤติการณ์คอร์รัปชันเหล่านี้ได้ ควรทำอย่างไร ?  

การประเมินผลคอร์รัปชัน

ในความเป็นจริงแล้วการประเมินคอร์รัปชันนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ “ยาก” เพราะพฤติการณ์คอร์รัปชันนั้นมักเป็นกระทำในรูปแบบที่ปกปิดเพื่อให้ตรวจสอบได้ยาก นวัตกรรมการประเมินคอร์รัปชันส่วนมากจึงมักจะประเมินผ่าน “มุมมอง การรับรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก” ต่อความเข้าใจในสถานการณ์สังคมภาพรวมต่อการเกิดคอร์รัปชัน 

องค์กรที่ทำการประเมินคอร์รัปชันในระดับสากลได้แก่ Transparency International (TI) ที่ทำงานประเมินสถานการณ์คอร์รัปชันของรัฐบาลทั่วโลกผ่านการสอบถามความคิดเห็นของประชาชน ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละประเทศ เรียกว่า “ดัชนีชี้วัดการรับรู้ด้านทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI)”  ประเทศในอาเซียนส่วนมากมักได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (นอกจากสิงคโปร์) และก็มีแนวโน้มที่จะไม่สามารถจะยกระดับการแก้ไขคอร์รัปชันได้

ในประเทศไทยเองนั้น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำมาตราวัดการรับรู้คอร์รัปชันระดับประเทศขึ้นมาคือ “การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA)” เพื่อประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส่ในหน่วยงานภาครัฐ โดยหากเปรียบเทียบคะแนนระหว่าง CPI และ ITA มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน คือคะแนน CPI ที่ประเมินโดยองค์กรนอกประเทศ ประเมินว่าสถานการณ์คอร์รัปชันของไทยคงที่และไม่มีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น แต่คะแนน ITA ที่ประเมินในระดับประเทศของไทย แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์คอร์รัปชันของประเทศไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี

พวกคุณคิดอย่างไรกับคะแนนดัชนีรับรู้คอร์รัปชัน คะแนนประเมินอันไหน น่าเชื่อถือกว่ากัน ระหว่าง CPI หรือ ITA?

ในการทำงานต่อต้านคอร์รัปชันระดับภูมิภาคอาเซียน ได้มีความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานของแต่ละรัฐเรียกว่า “หน่วยงานต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียน (The Southeast Asia Parties Against Corruption: ASEAN-PAC)” โดยแต่ละองค์กรที่ได้รับการมอบหมายจำเป็นจะต้องทำงานระหว่างกันในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในระดับภูมิภาค โดยมีวัตถุประสงค์ห้าข้อได้แก่

1. เพื่อแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูลและร่วมมือกันในการต่อต้านการทุจริต

2. เพื่อร่วมมือกันในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะวิชาชีพ

3. เพื่อแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและบุคลากรในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต

4. เพื่อเป็นเจ้าภาพและเข้าร่วมในการประชุม ฟอรัม การอบรม และการประชุมสัมมนา

5. เพื่อให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคในกิจกรรมปฏิบัติการ

ASEAN-PAC ได้มี MoU ลงนามอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2547 ถือเป็นการเริ่มต้นการทำงานระดับภูมิภาคอาเซียนขึ้นมาเพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน อย่างไรก็ตาม การทำงานของ ASEAN-PAC กับถูกมองว่ายังไม่มีความโปร่งใสเท่าที่ควร เพราะประชาชนแทบจะไม่ถามถึงแผนงาน ผลการประชุมของ ASEAN-PAC เลย

แม้ว่าเราจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับคอร์รัปชัน แต่การคอร์รัปชันก็ยังส่งผลถึงพวกเราทุกคนไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม และอย่างที่เห็นได้ชัดว่าบทบาทของรัฐบาลมีความสำคัญมากในการขับเคลื่อนการแก้ไขคอร์รัปชัน บทบาทของทุกคนก็มีความสำคัญไม่แพ้ในการที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน

สุดท้ายนี้ มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า พวกเรามีการรับรู้ปรากฎการณ์คอร์รัปชันแบบไหนกันบ้าง พวกคุณคิดอย่างไรกับคำถามเหล่านี้

  • รัฐบาลมีการบริหารจัดการคอร์รัปชันที่ดีหรือไม่ ?
  • รัฐบาลอาเซียนมีการความโปร่งใส่และธรรมาภิบาลหรือไม่ ?
  • คุณทราบหรือไม่ว่าหน่วยงานต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN-PAC)  เค้าพูดคุยอะไรกันบ้าง ?
  • คุณคิดว่ารัฐของคุณจะแก้ไขปัญหาคาสิโน คอลเซ็นเตอร์ออนไลน์ได้หรือไม่ ?
  • คุณเชื่อหรือไม่ว่าระบบศาลในประเทศของคุณมีความยุติธรรม ?
  • คุณว่าระบบรัฐสภาในปัจจุบันจะแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้หรือไม่ ?
  • เจ้าหน้าที่รัฐในประเทศของคุณชอบเก็บส่วยขูดรีดหรือไม่ ?
  • คุณเชื่อว่าปัญหาคอร์รัปชันจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ?
  • คุณคิดว่าการคอร์รัปชันส่งผลถึงประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างไร ?
  • คุณคิดว่าใครคือผู้ได้รับผลประโยชน์จากการคอร์รัปชันมากที่สุด ?

The post ทำความเข้าใจคอร์รัปชันในอาเซียน ฉบับรวบรัด 101 “คอร์รัปชันคืออะไร ?” appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9b%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99/feed/ 0 9226
Fact-Finding Humanitarian Report https://pefthailand.org/fact-finding-humanitarian-report/ https://pefthailand.org/fact-finding-humanitarian-report/#respond Wed, 01 May 2024 04:04:01 +0000 https://pefthailand.org/?p=9145 “1,000 – 3,000 is the number of people who have fled to the IDP camps” “Canvas, Tarpaulin and Tents are urgently needs for upcoming rainy season” “The medicines for congenital disease symptoms and the Oral Rehydration Salt (ORD) are needed” Fact-finding humanitarian report, PEF visited the field for donations and monitored the situation of IDPs […]

The post Fact-Finding Humanitarian Report appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
“1,000 – 3,000 is the number of people who have fled to the IDP camps” “Canvas, Tarpaulin and Tents are urgently needs for upcoming rainy season” “The medicines for congenital disease symptoms and the Oral Rehydration Salt (ORD) are needed”

Fact-finding humanitarian report, PEF visited the field for donations and monitored the situation of IDPs after the recent massive fight in the Myawaddy area, investigating the condition of IDPs. This report essentially reviews the needs of IDPs after impacted by armed conflict.

Please access to the full report: https://drive.google.com/file/d/1C9V8P1wRqSfPLG5VJNtgSd0kDGu-e5By/view?usp=sharing

The post Fact-Finding Humanitarian Report appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/fact-finding-humanitarian-report/feed/ 0 9145
Open Joint Statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of Using Aung San Suu Kyi as Human Shield from Attacks by Ethnic Military Forces (Thai language inside) https://pefthailand.org/open-joint-statement-of-condemnation-against-min-aung-hlaings-act-of-using-aung-san-suu-kyi-as-human-shield-from-attacks-by-ethnic-military-forces-thai-language-inside/ https://pefthailand.org/open-joint-statement-of-condemnation-against-min-aung-hlaings-act-of-using-aung-san-suu-kyi-as-human-shield-from-attacks-by-ethnic-military-forces-thai-language-inside/#respond Sat, 27 Apr 2024 07:05:33 +0000 https://pefthailand.org/?p=9141 25 Organizations and 44 Individuals signed joint-statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of Using Aung San Suu Kyi as Human Shield from Attacks by Ethnic Military Forces The key statement demands 25 องค์กรและ 44 บุคคลร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมประณาม มิน อ่อง ลายที่จะใช้นางออง ซานซู จี เป็นโลห์มนุษย์ป้องกันการโจมตีเนปิดอว์จากกองกำลังต่อต้านชาติพันธ์ุ พวกเราเรียกร้องให้ Access full statement: https://drive.google.com/file/d/1wFPR3i4IifAycfUCr7nLF9byI9dPqn1Q/view?usp=sharing

The post Open Joint Statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of Using Aung San Suu Kyi as Human Shield from Attacks by Ethnic Military Forces (Thai language inside) appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>

25 Organizations and 44 Individuals signed joint-statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of Using Aung San Suu Kyi as Human Shield from Attacks by Ethnic Military Forces

The key statement demands

  1. Min Aung Hlaing and the State Administration Council (SAC) must immediately reveal the conditions and whereabouts of Aung San Suu Kyi and U Win Myin without any condition for the sake of transparency and expressing intentions to release them following humanitarian principles, and for their health as was announced to the international society.
  2. Kim Aris should be granted permission to see his mother as a family member according to humanitarian principles.
  3. The international society, ASEAN and Thailand should condemn and protest against this action, without acknowledging legitimacy in the government led by Min Aung Hliang from now on.
  4. The international society, ASEAN and Thailand, abiding to international humanitarian principles, should revise their foreign policies with Myanmar in order to cause positive changes in the region.
  5. The international society, ASEAN and Thailand should support people in Myanmar in restoration of and transition to sustainable democracy in the country.

25 องค์กรและ 44 บุคคลร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมประณาม มิน อ่อง ลายที่จะใช้นางออง ซานซู จี เป็นโลห์มนุษย์ป้องกันการโจมตีเนปิดอว์จากกองกำลังต่อต้านชาติพันธ์ุ

พวกเราเรียกร้องให้

  1. มินอองลายและกองทพัพม่าต้องเปิดเผยสถานภาพและสถานที่กักขังของออง ซาน ซูจี และอู วิน มิน โดยททันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
  2. คิม อีริค ควรได้รับอนุญาตในการเข้าพบแม่ของเธอในฐานะที่เป็นสมาชิกครอบครัวให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม
  3. ประชาคมโลก อาเซียนและประเทศไทย ต้องประณามและคัดค้านการกระทำนี้ ทั้งไม่ยอมรับความชอบธรรมในการปกครองประเทศพม่าของ มิน ออง ลายอีกต่อไป
  4. ประชาคมโลก อาเซียนและประเทศไทยต้องมีการทบทวนท่าที นโยบายต่างประเทศต่อประเทศเมียนมาร์ ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคและต้องยึดมั่นในหลักการมนุษยธรรมสากล
  5. ประชาคมโลก อาเซียนและประเทศไทยต้องช่วยเหลือประชาชนพม่าในการฟื้นฟูประเทศชาติ สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยของ เมียนมาร์อย่างยั่งยืน

Access full statement: https://drive.google.com/file/d/1wFPR3i4IifAycfUCr7nLF9byI9dPqn1Q/view?usp=sharing

The post Open Joint Statement of Condemnation against Min Aung Hlaing’s Act of Using Aung San Suu Kyi as Human Shield from Attacks by Ethnic Military Forces (Thai language inside) appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/open-joint-statement-of-condemnation-against-min-aung-hlaings-act-of-using-aung-san-suu-kyi-as-human-shield-from-attacks-by-ethnic-military-forces-thai-language-inside/feed/ 0 9141
Recommendations from “Closed Door Workshop on Advancing the Thai-Foreign Policy on Ethnic Groups Along the Thai-Myanmar Border” https://pefthailand.org/recommendations-from-closed-door-workshop-on-advancing-the-thai-foreign-policy-on-ethnic-groups-along-the-thai-myanmar-border/ https://pefthailand.org/recommendations-from-closed-door-workshop-on-advancing-the-thai-foreign-policy-on-ethnic-groups-along-the-thai-myanmar-border/#respond Mon, 18 Mar 2024 05:24:00 +0000 https://pefthailand.org/?p=9030 Recommendations from “Closed Door Workshop on Advancing the Thai-Foreign Policy on Ethnic Groups Along the Thai-Myanmar Border” On 24-25 February 2024, PEF co-organized a closed-door meeting with the Regional Center for Social Science and Sustainable Development (RCSD), Chiang Mai University, and The Institute of Security and International Studies (Thai ISIS). The meeting aims to strengthen […]

The post Recommendations from “Closed Door Workshop on Advancing the Thai-Foreign Policy on Ethnic Groups Along the Thai-Myanmar Border” appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
Recommendations from “Closed Door Workshop on Advancing the Thai-Foreign Policy on Ethnic Groups Along the Thai-Myanmar Border”

On 24-25 February 2024, PEF co-organized a closed-door meeting with the Regional Center for Social Science and Sustainable Development (RCSD), Chiang Mai University, and The Institute of Security and International Studies (Thai ISIS). The meeting aims to strengthen security measures, address the humanitarian needs of ethnic groups along the border, and enhance collaboration among Thailand and other ethnic groups. 56 participants actively participated in the meeting.

The meeting produced 11 recommendations within three thematic topics: humanitarian aid, enhanced engagement, and displaced persons, refugees, and migrants.

The post Recommendations from “Closed Door Workshop on Advancing the Thai-Foreign Policy on Ethnic Groups Along the Thai-Myanmar Border” appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/recommendations-from-closed-door-workshop-on-advancing-the-thai-foreign-policy-on-ethnic-groups-along-the-thai-myanmar-border/feed/ 0 9030
The Impact of Conscription Laws In Myanmar (Thai language below) https://pefthailand.org/the-impact-of-conscription-laws-in-myanmar-thai-language-below/ https://pefthailand.org/the-impact-of-conscription-laws-in-myanmar-thai-language-below/#respond Sun, 18 Feb 2024 07:34:47 +0000 https://pefthailand.org/?p=8998 Source: the Irrawaddy The detail of the recently announced Conscription Laws in Myanmar is that this law will have a strong impact on all Myanmar citizens, urging great migration to neighbouring countries currently, Myanmar people have to line up in front of the Thai Embassy every while the Thai Embassy can allow only 400 persons […]

The post The Impact of Conscription Laws In Myanmar (Thai language below) appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
Source: the Irrawaddy

The detail of the recently announced Conscription Laws in Myanmar is that this law will have a strong impact on all Myanmar citizens, urging great migration to neighbouring countries currently, Myanmar people have to line up in front of the Thai Embassy every while the Thai Embassy can allow only 400 persons per day for visa applications.

After the announcement, PDF groups also urge all Myanmar citizens to join PDF troops for Myanmar Liberation.

Let’s come to understand how this law will impact Myanmar people and communities.

ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมารการบังคบเกณฑ์ทหารของรัฐบาลทหารเมียนม่าจะส่งผลถึงประชาชนชาวเมียนม่าทุกคน ซึ่งอาจจะส่งผลถึงการอพยพย้ายถิ่นฐานของประชากรจำนวนมาก ในทุกๆวันนี้จะมีประชากรเมียนม่าต่อแถวขอวีซ่าจำนวนมากที่สถานทูตไทย ในขณะที่สถานทูตไทยสามารถออกวีซ่าได้ให้อย่างจำกัดวันละ 400 คนเพียงเท่านั้น

ภายหลังการประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ กองทัพประชาชนปลดแอค PDF ได้เรียกร้องให้ประชาชนชาวเมียนม่าทุกคนมาเข้าวร่วมรบกับกลองทัพปลดแอคประเทศพม่า

มาร่วมทำความเข้าใจว่ากฎหมายฉบับนี้จะส่งผลต่อประชาชนเมียนม่าอย่างไรบ้าง

#WhathappeninginMyanmar

ภาษาไทย

The post The Impact of Conscription Laws In Myanmar (Thai language below) appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/the-impact-of-conscription-laws-in-myanmar-thai-language-below/feed/ 0 8998
บรรดากลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม และกองทัพ จะทำการหยุดยิง https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%87-3/ https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%87-3/#respond Thu, 15 Feb 2024 05:26:32 +0000 https://pefthailand.org/?p=8990 (ฐานข้อมูลข่าวพม่าฉบับแปลไทย ฉบับที่ 2) แปลโดย นางสาวพัชรพร เมืองแก่น 12 มกราคม 2024 By The Irrawaddy สำนักข่าวเอยาวดี ได้ตรวจสอบทราบว่า มีการตกลงหยุดยิงระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ พันธมิตรภาคเหนือทั้ง 3 กลุ่ม และกองทัพสภาทหาร แหล่งข่าวรายงานว่า ในการประชุมหารือกันระหว่างผู้แทนสภาทหารและผู้แทนกลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม ที่เริ่มขึ้นวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ณ เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนนั้น มีมติร่วมกันให้มีการหยุดยิงดังกล่าว กองทัพสภาทหาร และกองทัพของกลุ่มพันธมิตรภาคเหนือทั้ง 3 กลุ่ม ได้ตกลงให้หยุดยิง และหยุดชะงักไว้ในพื้นที่ของการหยุดยิง ตามข้อตกลงดังกล่าว กองทัพสภาทหารจะต้องหยุดยั้งการยิงด้วยปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศ ในขณะเดียวกันทางฝั่งของกลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม ก็จะต้องหยุดยั้งการโจมตียึดเมืองและฐานที่มั่นของทหารด้วยเช่นกัน ในการประชุมหารือดังกล่าว ทางฝั่งของกองทัพทหาร มี พลโท. มิง ไนน์ จากคณะกรรมการเจรจาสันติภาพแห่งชาติ (NSPNC) เป็นผู้นำเข้าร่วมการประชุม ส่วนทางฝั่งของกลุ่มชาติพันธุ์ มีบรรดาเลขานุการของกองทัพสัมพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา […]

The post บรรดากลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม และกองทัพ จะทำการหยุดยิง appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
(ฐานข้อมูลข่าวพม่าฉบับแปลไทย ฉบับที่ 2)

แปลโดย นางสาวพัชรพร เมืองแก่น

12 มกราคม 2024 By The Irrawaddy

สำนักข่าวเอยาวดี ได้ตรวจสอบทราบว่า มีการตกลงหยุดยิงระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ พันธมิตรภาคเหนือทั้ง 3 กลุ่ม และกองทัพสภาทหาร

แหล่งข่าวรายงานว่า ในการประชุมหารือกันระหว่างผู้แทนสภาทหารและผู้แทนกลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม ที่เริ่มขึ้นวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ณ เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนนั้น มีมติร่วมกันให้มีการหยุดยิงดังกล่าว

กองทัพสภาทหาร และกองทัพของกลุ่มพันธมิตรภาคเหนือทั้ง 3 กลุ่ม ได้ตกลงให้หยุดยิง และหยุดชะงักไว้ในพื้นที่ของการหยุดยิง

ตามข้อตกลงดังกล่าว กองทัพสภาทหารจะต้องหยุดยั้งการยิงด้วยปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศ ในขณะเดียวกันทางฝั่งของกลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม ก็จะต้องหยุดยั้งการโจมตียึดเมืองและฐานที่มั่นของทหารด้วยเช่นกัน

ในการประชุมหารือดังกล่าว ทางฝั่งของกองทัพทหาร มี พลโท. มิง ไนน์ จากคณะกรรมการเจรจาสันติภาพแห่งชาติ (NSPNC) เป็นผู้นำเข้าร่วมการประชุม ส่วนทางฝั่งของกลุ่มชาติพันธุ์ มีบรรดาเลขานุการของกองทัพสัมพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (กองทัพโกก้าง) (MNDAA) กองทัพตะเอาง์ (TNLA) และ กองทัพอารกัน (AA) เป็นผู้นำเข้าร่วมการประชุม

ฝั่งของประเทศจีนนั้น มีนาย Deng Xijun ผู้แทนพิเศษประจำประเทศพม่า ได้เข้าร่วมในการประชุมหารือในครั้งนี้ด้วย

แหล่งข่าวที่ทราบเกี่ยวกับการประชุมระบุว่า การประชุมหารือ เรื่องการหยุดยิงที่ตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย ได้ลงนามจะมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม เป็นต้นไป

ในการประชุมหารือดังกล่าวนี้ แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเห็นด้วยเกี่ยวกับการกลับมาเปิดการค้าชายแดนอีกครั้ง  แต่ตัวแทนของจีนและสภาทหาร รวมถึงตัวแทนของพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม ได้หารือกันเรื่องการเปิดการค้าชายแดนจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อมีการหยุดยิงที่แท้จริงเท่านั้น

อ้างอิงจากผู้เกี่ยวข้องใกล้ชิดทราบว่า ทางฝั่งของกลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม ได้ออกประกาศหนึ่งฉบับเกี่ยวกับการประชุมครั้งที่สาม ที่เมืองคุนหมิง


The post บรรดากลุ่มพันธมิตรทั้ง 3 กลุ่ม และกองทัพ จะทำการหยุดยิง appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%9e%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%87-3/feed/ 0 8990
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติและดัชนีการรับรู้การทุจริต Transparency International (TI) and The Corruption Perceptions Index (CPI) (English Below) https://pefthailand.org/%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%8c%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%aa/ https://pefthailand.org/%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%8c%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%aa/#respond Mon, 15 Jan 2024 06:17:47 +0000 https://pefthailand.org/?p=8970 องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: T) และดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) Transparency International (TI) เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน ที่มุ่งเน้น การต่อต้านการทุจริตทั่วโลก Tl ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 ดำเนินงานในฐานะแนวร่วมต่อต้านการทุจริตระดับโลกซึ่งเกี่ยวข้องกับบทและพันธมิตรในกว่า 100 ประเทศ หนึ่งในความคิดริเริ่มที่สำคัญของ T! คือดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการวัดการทุจริตทั่วโลก ดัชนีการรับรู้การทุจริต (CP) เป็นการจัดอันดับประจำปีที่ประเมินระดับการรับรู้ของการทุจริตภาครัฐในประเทศต่างๆทั่วโลก มันให้คะแนนตัวเลขให้กับแต่ละประเทศซึ่งบ่งบอกถึงระดับของการทุจริตที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำทางธุรกิจรับรู้ ดัชนีราคาผู้บริโภคให้คะแนนประเทศตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยที่ 0 หมายถึงการทุจริตสูงและ 100 หมายถึงสะอาดมาก ดัชนีนี้อ้างอิงจากการสำรวจและการประเมินจากแหล่งต่างๆ รวมถึงนักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิเคราะห์ที่ประเมินการทุจริตในภาครัฐ วิธีการ CP1 รวบรวมข้อมูล จากหลายแหล่งเพื่อสร้างการประเมินระดับการทุจริตที่ครอบคลุมและเปรียบเทียบได้ แหล่งข้อมูลเหล่านี้รวมถึงสถาบันและองค์กรที่มีชื่อเสียงซึ่งแต่ละแห่งทำการสำรวจอิสระเพื่อรวบรวมการรับรู้ถึงการทุจริตในประเทศต่างๆ จากนั้นองค์กรเพื่อความโปร่งสนานาชาติ (Transparency International) จะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพื่อสร้างการจัดอันดับ CPI จุดแข็งของ CP1 อยู่ที่ความสามารถในการนำเสนอการวัดการรับรู้การทุจริตที่เป็นมาตรฐานและเทียบเคียงได้ในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ด้วยการรวมข้อมูลจากแหล่งที่หลากหลาย CP! […]

The post องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติและดัชนีการรับรู้การทุจริต Transparency International (TI) and The Corruption Perceptions Index (CPI) (English Below) appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>

องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International: T) และดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI)

Transparency International (TI) เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน ที่มุ่งเน้น การต่อต้านการทุจริตทั่วโลก Tl ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 ดำเนินงานในฐานะแนวร่วมต่อต้านการทุจริตระดับโลกซึ่งเกี่ยวข้องกับบทและพันธมิตรในกว่า 100 ประเทศ หนึ่งในความคิดริเริ่มที่สำคัญของ T! คือดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการวัดการทุจริตทั่วโลก

ดัชนีการรับรู้การทุจริต (CP) เป็นการจัดอันดับประจำปีที่ประเมินระดับการรับรู้ของการทุจริตภาครัฐในประเทศต่างๆทั่วโลก มันให้คะแนนตัวเลขให้กับแต่ละประเทศซึ่งบ่งบอกถึงระดับของการทุจริตที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำทางธุรกิจรับรู้ ดัชนีราคาผู้บริโภคให้คะแนนประเทศตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยที่ 0 หมายถึงการทุจริตสูงและ 100 หมายถึงสะอาดมาก ดัชนีนี้อ้างอิงจากการสำรวจและการประเมินจากแหล่งต่างๆ รวมถึงนักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิเคราะห์ที่ประเมินการทุจริตในภาครัฐ

วิธีการ CP1 รวบรวมข้อมูล จากหลายแหล่งเพื่อสร้างการประเมินระดับการทุจริตที่ครอบคลุมและเปรียบเทียบได้ แหล่งข้อมูลเหล่านี้รวมถึงสถาบันและองค์กรที่มีชื่อเสียงซึ่งแต่ละแห่งทำการสำรวจอิสระเพื่อรวบรวมการรับรู้ถึงการทุจริตในประเทศต่างๆ จากนั้นองค์กรเพื่อความโปร่งสนานาชาติ (Transparency International) จะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลนี้เพื่อสร้างการจัดอันดับ CPI

จุดแข็งของ CP1 อยู่ที่ความสามารถในการนำเสนอการวัดการรับรู้การทุจริตที่เป็นมาตรฐานและเทียบเคียงได้ในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ด้วยการรวมข้อมูลจากแหล่งที่หลากหลาย CP! จะให้ภาพรวมกว้าง ๆ ของแนวโน้มการทุจริตทั่วโลก ผู้กำหนดนโยบาย นักวิจัย และกลุ่มผู้สนับสนุนมักพึ่งพา CPI เพื่อประเมินประสิทธิภาพของความพยายามในการต่อต้านการทุจริต จัดลำดับความสำคัญของการแทรกแซงนโยบาย และจัดสรรทรัพยากรเพื่อจัดการกับความท้าทายด้านการทุจริต

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า CPI มีข้อจำกัด มันวัดการรับรู้ของการทุจริตซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับระดับที่แท้จริงของการทุจริตในประเทศ ปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงการรายงานข่าวของสื่อวาทกรรมสาธารณะและบรรยากาศทางการเมืองสามารถมีอิทธิพลต่อการรับรู้ นอกจากนี้ CP ไม่ได้รวบรวมกรณีการทุจริตที่เฉพาะเจาะจงหรือความแตกต่างของรูปแบบการทุจริตที่แตกต่างกัน แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ แต่ CPI ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีค่าในการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตทั่วโลกและสนับสนุนให้รัฐบาลเพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบภายในสถาบันของตน

Transparency International (TI) and The Corruption Perceptions Index (CPI)

Transparency International (TI) is a non-governmental organization combating global corruption. Founded in 1993, TI operates as a global coalition against corruption, involving chapters and partners in more than 100 countries. One of TI’s key initiatives is the Corruption Perceptions Index (CPI), widely recognized as one of the most influential tools for measuring corruption worldwide.

The Corruption Perceptions Index (CPI) is an annual ranking that assesses the perceived levels of public sector corruption in countries worldwide. It provides a numerical score to each country, indicating the degree of corruption perceived by experts and business leaders. The CPI scores countries from 0 to 100, where 0 signifies highly corrupt and 100 represents very clean. The index is based on a combination of surveys and assessments from various sources, including businesspeople, experts, and analysts who evaluate corruption in the public sector.

The CPI methodology aggregates data from multiple sources to create a comprehensive and comparable assessment of corruption levels. These sources include reputable institutions and organizations, each conducting independent surveys to gather perceptions of corruption in different countries. Transparency International then compiles and analyzes this data to create the CPI ranking.

The strength of the CPI lies in its ability to offer a standardized and comparable measure of corruption perceptions across different countries and regions. By amalgamating data from diverse sources, the CPl provides a broad overview of corruption trends globally. Policymakers, researchers, and advocacy groups often rely on the CPI to assess the effectiveness of anti-corruption  efforts, prioritize policy interventions, and allocate resources to address corruption challenges.

However, it is essential to note that the CPI has its limitations. It measures perceptions of corruption, which may not always align with a country’s actual corruption levels. Various factors, including media coverage, public discourse, and political climate can influence perceptions. Additionally, the CPI does not capture specific instances of corruption or the nuances of different corrupt practices. Despite these limitations, the CPI remains a valuable tool for raising awareness about corruption issues globally and encouraging governments to enhance transparency and accountability within their institutions.

The post องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติและดัชนีการรับรู้การทุจริต Transparency International (TI) and The Corruption Perceptions Index (CPI) (English Below) appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%8c%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%aa/feed/ 0 8970
Education Barriers for Children from Migrant and Refugee Communities in Thailand https://pefthailand.org/education-barriers-for-children-from-migrant-and-refugee-communities-in-thailand/ https://pefthailand.org/education-barriers-for-children-from-migrant-and-refugee-communities-in-thailand/#respond Mon, 08 Jan 2024 02:35:01 +0000 https://pefthailand.org/?p=8953 The post Education Barriers for Children from Migrant and Refugee Communities in Thailand appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
Education-Barriers-for-Children-from-Migrant-and-Refugee-Communities-in-ThailandDownload

The post Education Barriers for Children from Migrant and Refugee Communities in Thailand appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/education-barriers-for-children-from-migrant-and-refugee-communities-in-thailand/feed/ 0 8953
กองทัพพม่าไม่ฟื้นตัวเป็นระยะเวลานานนับเดือน หลังปฏิบัติการ 1027 อัพเดทสถานการณ์ในพม่า (25 ธันวาคม 2023) https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%9e%e0%b8%9e%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%9f%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%9b/ https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%9e%e0%b8%9e%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%9f%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%9b/#respond Mon, 25 Dec 2023 01:00:19 +0000 https://pefthailand.org/?p=8939 (ฐานข้อมูลข่าวพม่าฉบับแปลไทย ฉบับที่ 1)1 ธันวาคม 2023 By The Irrawaddy เป็นเวลาครบรอบเดือน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน สภาทหารต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด หลังจากทำการรัฐประหารในปี 2021 ความท้าทายดังกล่าว เป็นยุทธการของกลุ่มปฏิบัติการ 1027 ที่ได้ใช้การศึกโจมตีที่มีการต่อรองที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มต่อต้าน ส่งผลให้สูญเสียกองกำลังสภาทหาร และการควบคุมดินแดนอย่างมากมาย กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือประกอบด้วยกองทัพอารกัน (AA) กองทัพตะเอาง์ (TNLA) และกองทัพสัมพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (กองทัพโกก้าง) (MNDAA) ซึ่งได้รวมตัวกันในปฏิบัติการต่อต้านกองทัพ โดยได้ทำการบุกโจมตีฐานที่มั่นของทหารหลายๆแห่งและเมืองหลายเมืองตั้งแต่ตอนบนของเมืองมัณฑะเลย์ เขตสะกาย รัฐยะไข่ รัฐกะฉิ่น และรัฐฉาน ในตอนนี้ได้มีการดำเนินการในการประสานงานกันของกลุ่มปฏิวัติหลายกลุ่ม ประกอบด้วยกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ภายใต้รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) กองกำลังคะเรนนี (KNDP) และกองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) ปัจจุบันการระดมเข้าร่วมกลุ่มปฏิบัติการคาดว่ามีกำลังพลประมาณ 20,000 นาย กลุ่มปฏิบัติการนี้ถือเป็นกองกำลังที่มีประสิทธิภาพและใหญ่ที่สุดในการเข้าโจมตีสภาทหารหลังการรัฐประหาร หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือได้รับชัยชนะหลังเข้ายึดฐานของกองทัพสภาทหารหลายๆ จุดได้ในระยะเวลาอันสั้นนั้น  กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือจึงได้รับการสนับสนุนจากประชากรและชาวพม่าทั้งประเทศที่ต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค ภายใต้การปกครองของกองทัพทหาร ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน พวกเขาได้ยึดครองพื้นที่ทางฝั่งตอนบนของรัฐฉานที่เป็นเส้นทางการค้าสำคัญ จีน – […]

The post กองทัพพม่าไม่ฟื้นตัวเป็นระยะเวลานานนับเดือน หลังปฏิบัติการ 1027 อัพเดทสถานการณ์ในพม่า (25 ธันวาคม 2023) appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>

(ฐานข้อมูลข่าวพม่าฉบับแปลไทย ฉบับที่ 1)
1 ธันวาคม 2023 By The Irrawaddy

เป็นเวลาครบรอบเดือน เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน สภาทหารต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด หลังจากทำการรัฐประหารในปี 2021 ความท้าทายดังกล่าว เป็นยุทธการของกลุ่มปฏิบัติการ 1027 ที่ได้ใช้การศึกโจมตีที่มีการต่อรองที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มต่อต้าน ส่งผลให้สูญเสียกองกำลังสภาทหาร และการควบคุมดินแดนอย่างมากมาย กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือประกอบด้วยกองทัพอารกัน (AA) กองทัพตะเอาง์ (TNLA) และกองทัพสัมพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (กองทัพโกก้าง) (MNDAA) ซึ่งได้รวมตัวกันในปฏิบัติการต่อต้านกองทัพ โดยได้ทำการบุกโจมตีฐานที่มั่นของทหารหลายๆแห่งและเมืองหลายเมืองตั้งแต่ตอนบนของเมืองมัณฑะเลย์ เขตสะกาย รัฐยะไข่ รัฐกะฉิ่น และรัฐฉาน

ในตอนนี้ได้มีการดำเนินการในการประสานงานกันของกลุ่มปฏิวัติหลายกลุ่ม ประกอบด้วยกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ภายใต้รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) กองกำลังคะเรนนี (KNDP) และกองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) ปัจจุบันการระดมเข้าร่วมกลุ่มปฏิบัติการคาดว่ามีกำลังพลประมาณ 20,000 นาย กลุ่มปฏิบัติการนี้ถือเป็นกองกำลังที่มีประสิทธิภาพและใหญ่ที่สุดในการเข้าโจมตีสภาทหารหลังการรัฐประหาร

หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือได้รับชัยชนะหลังเข้ายึดฐานของกองทัพสภาทหารหลายๆ จุดได้ในระยะเวลาอันสั้นนั้น  กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือจึงได้รับการสนับสนุนจากประชากรและชาวพม่าทั้งประเทศที่ต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค ภายใต้การปกครองของกองทัพทหาร

ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน พวกเขาได้ยึดครองพื้นที่ทางฝั่งตอนบนของรัฐฉานที่เป็นเส้นทางการค้าสำคัญ จีน – พม่า และฐานของกองทัพ 224 แห่ง รวมทั้ง เมืองอีกจำนวน 7 เมืองจากสภาทหาร ภายหลังการเริ่มปฏิบัติการ บรรดากลุ่มต่อต้านได้ปิดกั้นเส้นทางการค้าสำคัญของประเทศจำนวน 2 เส้นทาง คือ ถนนสายมัณฑะเลย์ – ลาโช – มูแส่ กับ ถนนสายมัณฑะเลย์ – ลาโช – ชิน-ชเว ฮอ ตัดผ่านตอนบนของรัฐฉาน

ในช่วงแรกของการปฏิบัติการ กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ได้เข้ายึดศูนย์กลางการค้าชิน-ชเว-ฮอ ติดชายแดนจีน หลังจากนั้น พวกเขาได้ใช้ยุทธวิธีในการเข้ายึดเมืองต่าน์นีที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และเป็นเมืองที่บรรจบกันของถนน ลาโช – มูแส่ กับ ลาโช – ชินชเหว่ฮอ กองกำลังชาติพันธุ์ติดอาวุธได้เข้ายึดจินซานเจ้าะ ซึ่งเป็นด่านชายแดนการค้าสำคัญชายแดนจีนที่ตั้งอยู่เมืองมูแส่

หลังจากเสร็จสิ้นการโจมตีกองอำนวยการทหารสำคัญและฐานทหารอีกหลายแห่งเป็นระยะเวลา 12 วัน  ในวันที่ 12 พฤศจิกายน กองกำลังต่อต้านได้เข้ายึดเมืองกูนโลงซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ของกองทัพทหารบนถนนล่าเสี้ยว-ชิน-ชเว-ฮอ ที่เป็นทางเข้าพื้นที่ปกครองตนเองโกก้างหรือที่เรียกว่าเขตพื้นที่พิเศษของรัฐฉานที่ 1 กลุ่มต่อต้านยังคงรวมกำลังเข้ายึดฐานของทหารหลายๆแห่งทางตอนบนของรัฐฉานอย่างต่อเนื่อง ด้านกองทัพทหารได้โจมตีด้วยเครื่องบินรบและปืนใหญ่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่สามารถยึดฐานต่างๆกลับคืนมาได้และไม่สามารถส่งกองทัพเข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่ดังกล่าวได้

ในเวลาเดียวกัน กลุ่มต่อต้านเผด็จการ กลุ่มกองกำลังติดอาวุธจำนวนหลายกลุ่ม (EAOs) ร่วมกับกลุ่มปฏิบัติการ 1027 ได้เร่งโจมตีเป้าหมายต่อกองทัพทหารในรัฐชิน กองกำลังต่อต้านต่างๆซึ่งประกอบด้วยกลุ่มต่อต้านชิน รวมถึงกองทัพแห่งชาติชิน (CNA) ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธของแนวร่วมแห่งชาติชิน (CNF) ได้เร่งการโจมตีเป้าหมายและค่ายทหารในเมืองผะลันน์และตีเต่งน์ และเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ยังเข้ายึดเมืองเรกข่อดาในอำเภอผะลันน์ ชายแดนอินเดียได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนพวกเขาได้เข้ายึดตั้งแต่เมืองมะตูปี่ ในอำเภอไลลิง์ปี่อีกด้วย

ในช่วงอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายน กองกำลังต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย KIA, AA, PDFs และ กลุ่มกองกำลังต่อต้านชินได้ร่วมกันเข้ายึดครอง ตั้งแต่เมืองก่านแป้ะก์แล้ะก์และกอลิง์ในเขตสะกาย หลังจากการสู้รบกับกองทัพที่ยึดเยื้อหลายวัน

วันที่ 11 พฤศจิกายน กองทัพกะเรนนี (KA), แนวร่วมปลดปล่อยประชาชนแห่งชาติคะเรนนี (KNPLF); กลุ่ม KNDF และ PDF ร่วมกับปฏิบัติการ 1027 ได้ร่วมกันรุกครั้งใหญ่ในปฏิบัติการ 1111 เพื่อต่อต้านสภาทหาร พวกเขาโจมตีและยึดค่ายทหารมากกว่า 20 แห่ง ในอำเภอดีเมาะโซ และเมืองลอยก่อ รัฐกะยา รวมถึงเมืองแผ่โข่งทางตอนใต้ของรัฐฉาน

ในช่วง 10 วันแรกของปฏิบัติการต่อต้าน กำลังพลกองทัพทหารจำนวนกว่า 200 นายและกำลังพลต่อต้านไม่น้อยกว่า 45 คนได้เสียชีวิต ทำให้กองทัพทหารรวมหลายสิบนายได้วางอาวุธยอมจำนนต่อกลุ่มต่อต้านเหตุเพราะแนวร่วมกองกำลังกลุ่มต่อต้านพยายามอย่างหนักเพื่อเข้ายึดเมืองลอยก่อ เมืองหลวงของรัฐกะยา  จึงเกิดการสู้รบกันอย่างรุนแรงและต่อเนื่องภายในรัฐกะยา

ในวันที่ 13 พฤศจิกายน กองทัพ AA ได้โจมตีเป้าทหารทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงถือเป็นเป็นจุดสิ้นสุดของข้อตกลงหยุดยิงที่ได้มติร่วมกันกับกองทัพพม่าเมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากนี้กองทัพ AA ได้ประกาศว่า หลังจากโจมตีเข้ายึดฐานทหาร 4 แห่งแล้ว จะเข้ายึดฐานทหารที่กองทัพสละทิ้งและหลบหนีไปด้วยความหวาดกลัวต่อการโจมตีของกลุ่มต่อต้านอีก 40 แห่ง เนื่องด้วย AAพยายามยึดครองเมืองเป้าก์ตอ ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองซิตเตว่อันเป็นเมืองหลวงของรัฐยะไข่ง์ การสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวจึงยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน สำนักงานเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) ระบุว่า ผู้คนร่วม 335,000 คนในหลายรัฐและเขตต่าง ๆ ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น เนื่องจากหลังวันที่ 26 ตุลาคม เกิดการสู้รบที่รุนแรงขึ้น สำนักงานบรรเทาทุกข์และการทำงานของสหประชาชาติ ได้ระบุว่าเหตุเพราะสงครามและความไม่สงบอันเนื่องด้วยสงครามดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านร่วม 200 คนเสียชีวิต และชาวบ้านอีก 263 คนได้รับบาดเจ็บ จำนวนประชาชนที่บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้นน่าจะมีจำนวนมากกว่ายอดประกาศอย่างเป็นทางการ เนื่องจากกองทัพทหารได้ใช้ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศที่เพิ่มขึ้นในรัฐชิน รัฐยะไข่ และตอนเหนือของรัฐฉาน

นับตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมเป็นต้นมา มีการคาดการณ์ว่าทหารของกองทัพรวมแล้วกว่า 100 นายได้เสียชีวิตจากการสู้รบที่รุนแรงของกลุ่มต่อต้าน หลังจากได้ข่าวทหารและสมาชิกในครอบครัวมากกว่า 200 นาย รวมถึงกองพันทหารกว่า 500 นาย ต้องวางอาวุธต่อกองกำลังต่อต้าน หรือออกจากฐานของพวกเขา เนื่องจากการสู้รบของกลุ่มต่อต้านได้เพิ่มและได้เริ่มกระจายไปทั่วทั้งประเทศ กองทัพทหารจึงได้เรียกกองกำลังทหารกว่า 14,000 นาย รวมถึงหน่วยคอมมาโด 4,000 นาย เพื่อป้องกันกองอำนวยการในเมืองเนปีดอว์ ซึ่งเป็นที่นายพลและครอบครัวของพวกเขาอาศัยอยู่ เจ้าหน้าที่ของรัฐจากเมืองเนปีดอว์ได้รับคำสั่งให้จัดตั้งยามกองทัพและให้เปลี่ยนการป้องกันของค่ายทหารและค่ายตำรวจที่มีป้อมปราการที่แข็งแกร่งเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน


หลังการรัฐประหารในปี 2021 นอกจากกลุ่มต่อต้านที่รุนแรงแล้ว สภาทหารยังคงถูกโจมตีบ่อยครั้งจาก PDFs และ EAOs ในทุกรัฐ และเขตต่าง ๆ ของประเทศ นอกจากเขตอิระวดี จากการประเมินผลกระทบของกลุ่มปฏิบัติการต่อต้านและต่อสู้กับสภาทหารอย่างดุเดือด ปะโด่ ซอตอนี โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ กล่าวว่า ตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021  “การปฏิวัติของประชาชนหลังจากปฏิบัติการ 1027 ได้เริ่มต้นก่อตัวขึ้นจากการปฏิวัติของประชาชน ก็ได้รับแรงผลักดันเรื่อยมา นี่แสดงให้เห็นถึงจุดจบของสภาทหาร”

พวกเขายังได้กล่าวอีกว่า “สภาทหาร กำลังจะสูญพันธ์”

เว็ปไซต์ต้นทางภาษาอังกฤษ https://www.irrawaddy.com/news/war-against-the-junta/myanmar-junta-continues-to-suffer-defeats-a-month-into-operation-1027.html “Myanmar Junta Continues to Suffer Defeats a Month into Operation 1027” (Irrawaddy)

The post กองทัพพม่าไม่ฟื้นตัวเป็นระยะเวลานานนับเดือน หลังปฏิบัติการ 1027 อัพเดทสถานการณ์ในพม่า (25 ธันวาคม 2023) appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%9e%e0%b8%9e%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%9f%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%9b/feed/ 0 8939
การ์ตูนสิทธิมนุษยชน ตอนที่ 3 “AICHR คณะกรรมมาธิการระหว่างอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน” https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%a9%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99-%e0%b8%95%e0%b8%ad-2/ https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%a9%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99-%e0%b8%95%e0%b8%ad-2/#respond Sun, 17 Dec 2023 15:21:34 +0000 https://pefthailand.org/?p=8929 มารู้จัก AICHR (ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights) หรือคณะกรรมาธิการระหว่างอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน นอกจากการก่อตั้งความร่วมมือระดับรัฐบาลในอาเซียนแล้ว ตามกฎบัตรอาเซียนยังมีข้อตกลงในการก่อตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับอาเซียนขึ้นมา โดยจุดประสงค์เพื่อทำงานรณรงค์และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนระดับอาเซียน AICHR ทำงานอย่างไร? มีบทบาทอย่างไร? มารู้จัก AICHR ผ่านการ์ตูนสิทธิมนุษยชนตอนที่ 3 “AICHR คณะกรรมาธิการระหว่างอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน” #AICHR #PEF #peoplesempowermentfoundation #มูลนิธิศักยภาพชุมชน อาเซียนนั้นถูกก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1967 โดยเริ่มก่อตั้งในประเทศไทย ณ วังสราญรมย์ เริ่มก่อตั้งโดยห้าประเทศสมาชิกที่สำคัญ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ โดยมีจุดประสงค์สำคัญคือการสร้างความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษาและศาสตร์ต่างๆ รวมถึงการสร้างสันติภาพและความมั่นคง      ในช่วงแรกอาเซียนจะมีการประชุมกันเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นหรือเวลาที่เกิดข้อขัดแย้งระหว่างกัน ไม่มีการประชุมประจำปีจะเจอกันเป็นครั้งคราวเท่านั้น บทบาทของเซียนในช่วงแรกนี้คือการลดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลในภูมิภาค หลังจากอาเซียนเดินทางมาได้กว่า 41 ปี ก็ได้มีการตกลงเขียนรัฐธรรมนูญของอาเซียนขึ้น เรียกว่า “กฎบัตรอาเซียน” (ASEAN Charter) เป็นการกำหนดถึงอำนาจของรัฐในการทำงานระดับอาเซียน สิ่งสำคัญคือทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างรัฐบาล การกำหนดให้มีการประชุมอาเซียนทุกปีในหลายๆระดับ […]

The post การ์ตูนสิทธิมนุษยชน ตอนที่ 3 “AICHR คณะกรรมมาธิการระหว่างอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน” appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
มารู้จัก AICHR (ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights) หรือคณะกรรมาธิการระหว่างอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน นอกจากการก่อตั้งความร่วมมือระดับรัฐบาลในอาเซียนแล้ว ตามกฎบัตรอาเซียนยังมีข้อตกลงในการก่อตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับอาเซียนขึ้นมา โดยจุดประสงค์เพื่อทำงานรณรงค์และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนระดับอาเซียน

AICHR ทำงานอย่างไร? มีบทบาทอย่างไร? มารู้จัก AICHR ผ่านการ์ตูนสิทธิมนุษยชนตอนที่ 3 “AICHR คณะกรรมาธิการระหว่างอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน”

#AICHR #PEF #peoplesempowermentfoundation #มูลนิธิศักยภาพชุมชน

อาเซียนนั้นถูกก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1967 โดยเริ่มก่อตั้งในประเทศไทย ณ วังสราญรมย์ เริ่มก่อตั้งโดยห้าประเทศสมาชิกที่สำคัญ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์

โดยมีจุดประสงค์สำคัญคือการสร้างความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษาและศาสตร์ต่างๆ รวมถึงการสร้างสันติภาพและความมั่นคง     

ในช่วงแรกอาเซียนจะมีการประชุมกันเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นหรือเวลาที่เกิดข้อขัดแย้งระหว่างกัน ไม่มีการประชุมประจำปีจะเจอกันเป็นครั้งคราวเท่านั้น บทบาทของเซียนในช่วงแรกนี้คือการลดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลในภูมิภาค

หลังจากอาเซียนเดินทางมาได้กว่า 41 ปี ก็ได้มีการตกลงเขียนรัฐธรรมนูญของอาเซียนขึ้น เรียกว่า “กฎบัตรอาเซียน” (ASEAN Charter) เป็นการกำหนดถึงอำนาจของรัฐในการทำงานระดับอาเซียน สิ่งสำคัญคือทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างรัฐบาล การกำหนดให้มีการประชุมอาเซียนทุกปีในหลายๆระดับ อย่างไรก็ดีปัญหาของอาเซียนคือการไม่มีกลไกรัฐสภาและกลไกศาล

มาตรา 14 ของกฎบัตรอาเซียนมีการกำหนดว่าต้องมีสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค เพื่อทำหน้าที่ให้การรณรงค์และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในอาเซียน

หลังจากการก่อตั้ง AICHR ขึ้นมาแล้ว ก็ได้มีการกำหนด TOR เพื่อระบุถึงขอบเขตการทำงานของ AICHR อย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ดียังมีปัญหาในการทำงานขับเคลื่อนสิทธิฯหลายอย่าง เช่นการคุ้มครองสิทธิ รวมถึงหากภาคประชาชนจะทำงานกับ AICHR ก็ต้องทำการลงทะเบียนและให้ได้รับการยอมรับจาก AICHR ก่อน ในการที่จะทำงานร่วมกัน AICHR

AICHR คือระบบตัวแทนที่แต่งตั้งโดยรัฐ มาเพื่อทำงานขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชนในระดับภูมิภาค

ตั้งแต่ก่อตั้ง AICHR ในปี 2009 จนถึงปี 2021 ประเทศไทยมีตัวแทน AICHR มาแล้วทั้งหมด 3 คนใน 5 วาระ ได้แก่ ดร.ศรีประภา เพชรมีศรี (1 วาระ) ดร.เสรี นนทสูติ (2 วาระ) และอาจารย์อมรา พงศาพิชญ์ (2 วาระ)

ในแต่ละประเทศจะมีกระบวนการคัดเลือกที่แตกต่างกันไป ในส่วนของประเทศกระบวนการคัดเลือกตัวแทน AICHR กระทรวงการต่างประเทศจะแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาเพื่อคัดเลือกผู้แทนไทย ประกอบด้วยผู้แทนจากภาครัฐ นักวิชาการ ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน จำนวน 9 คน เพื่อร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ และคัดเลือกผู้แทนไทยฯ

โดยสรุป AICHR นั้นถูกแต่งตั้งตามกฎบัตรของอาเซียนในปี 2008 เป็นกลไกที่แต่ละรัฐบาลในอาเซียนจะแต่งตั้งตัวแทนมาเพื่อทำงานขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชน โดย AICHR ยังมีข้อจำกัดในการสร้างกระบวนการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ผลงานส่วนใหญ่จะเป็นการจัดประชุมสัมมนาและการจัดฝึกอบรมเรื่องสิทธิมนุษยชน

The post การ์ตูนสิทธิมนุษยชน ตอนที่ 3 “AICHR คณะกรรมมาธิการระหว่างอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน” appeared first on People’s Empowerment Foundation.

]]>
https://pefthailand.org/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%a9%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%99-%e0%b8%95%e0%b8%ad-2/feed/ 0 8929